ลูกขุนศาลรัฐนิวยอร์กตัดสินว่า ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน โปรดิวเซอร์ผู้ทรงอิทธิพลของฮอลลีวูดมีความผิดฐานก่ออาชญากรรมทางเพศระดับ 1 และข่มขืนระดับ 3 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักแสดงหญิงในฮอลลีวูดหลายคนออกมาเปิดโปงว่า ไวน์สตีนล่วงละเมิดพวกเธอ ซึ่งหลายกรณีเกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน และอาศัยอำนาจในวงการทำให้ไม่มีใครออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ จนจุดกระแสขบวนการเคลื่อนไหว #MeToo ขึ้น

ที่ศาลสูงสุดของนิวยอร์ก คณะลูกขุนที่ประกอบด้วยผู้ชาย 7 คน และผู้หญิง 5 คนใช้เวลาพิจารณาหลักฐานและคำให้การ 5 วัน และตัดสินว่า ไวน์สตีนกระทำความผิดโดยก่ออาชญากรรมทางเพศ จากการที่เขาบังคับให้อดีตผู้ช่วยฝ่ายโปรดักชันโปรเจ็กต์รันเวย์ มิเรียม ฮาร์เลย์ทำออรัลเซ็กซ์ในปี 2006 ไวน์สตีนต้องโทษจำคุกอย่างน้อย 5 ปี โทษสูงสุด 25 ปี

ศาลยังตัดสินว่า ไวน์สตีนกระทำความผิดข้อหาข่มขืนระดับ 3 ต่อผู้หญิงคนหนึ่งในโรงแรมแห่งหนึ่งที่นิวยอร์กเมื่อปี 2013 ข้อหานี้มีโทษสูงสุด 4 ปี 

อย่างไรก็ตามเขาถูกตัดสินให้พ้นผิดใน 3 ข้อหา ซึ่งรวมถึงข้อหาประทุษร้ายทางเพศ ซึ่งเป็นข้อหาที่ร้ายแรงที่สุด มีโทษจำคุกตลอดชีวิต

หลังจากศาลมีคำตัดสิน ไวน์สตีนถูกควบคุมตัวและใส่กุญแจมือ และถูกนำตัวออกไปยังเรือนจำทันทีเพื่อรอการกำหนดโทษในวันที่ 11 มีนาคม 2020  ก่อนหน้านี้เขาถูกนำตัวมาขึ้นศาลจากโรงพยาบาล

ดอนนา โรทันโน ทนายความของไวน์สตีนกล่าวว่า ลูกความของเธอจะยื่นอุทธรณ์ “เขารู้ว่าเราจะสู้เพื่อเขาต่อไปและรู้ว่ามันยังไม่จบ”

คำตัดสินนี้จะมีผลกระทบมากมายต่อแนวทางการพิจารณาคดีอาชญากรรมทางเพศ เพราะในคดีข่มขืนที่ผ่านมาศาลมักจะพิจารณาเรื่องการยินยอม และทำให้เหยื่อต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการพิสูจน์เรื่องนี้ ทนายของไวน์สตีนพยายามอ้างว่า เป็นความผิดของเหยื่อด้วยที่เหยื่อยอมขึ้นไปยังอพาร์ตเมนต์ของเขาเอง และเปิดโอกาสให้เขากระทำ โรทันโนกล่าวกับพยานว่า “คุณโน้มน้าวเขา ทำให้ได้รับคำชวนขึ้นไปยังปาร์ตี้ใช่ไหม ต้องการให้เขาใช้อำนาจใช่ไหม”

แต่ในครั้งนี้ โจทก์ใช้วิธีเลือกผู้เสียหายหลัก 2 คน ทั้งคู่เป็นคนที่ใกล้ชิดกับจำเลยและยังคงติดต่อกับเขาหลังจากถูกล่วงละเมิดทางเพศหลายครั้ง ที่ผ่านมา โจทก์มักจะคัดค้านในหลายคดีที่ปนเประหว่างการถูกบังคับกับการยินยอมทำให้การพิจารณาความผิดยุ่งยากเกินไป

ทนายฝ่ายโจทก์นำโดยโจแอน อิลูซซี่-ออร์บอนและเมแกน ฮาสต์ ใช้วิธีเรียกพยาน 27 คนในเวลา 12 วันเพื่อแสดงให้เห็นถึงประวัติด้านการเป็นผู้คุกคามทางเพศที่เยือกเย็นและคำนวณไว้ก่อนแล้วของโปรดิวเซอร์รายนี้ ทีมทนายเน้นให้เห็นถึงอำนาจที่มากมายมหาศาลของไวน์สตีนต่อเหยื่อ ไวน์สตีนวางแผนอย่างละเอียด เลือกเหยื่อด้วยความระมัดระวัง โดยหาจุดอ่อนของพวกเขา ให้พวกเขาทดสอบความภักดีต่อตนเอง ถ้าผ่านก็จะนำไปสู่ขั้นตอนการโจมตีต่อไป

เขาล่อลวงมิเรียม ฮาร์เลย์ ซึ่งขณะที่อายุ 42 ปี ด้วยการเสนอว่าจะให้เธอทำงานผู้ช่วยฝ่ายโปรดักชั่นของโปรเจ็กต์รันเวย์ได้ต่อไป จากนั้นในวันที่ 10 กรกฎาคม 2006 ก็ลวงให้เธอขึ้นไปพบเขาที่อพาร์ตเมนต์โดยส่งข้อความไปบอกว่าเป็นการประชุมทางธุรกิจ จากนั้นเขาก็พยายามข่มขืนเธอ ในศาลฮาร์เล่ย์บรรยายว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ขณะที่เกิดเหตุ ซึ่งคล้ายกันกับที่ผู้หญิงอีก 6 คนที่พยานฝ่ายโจทก์ที่เป็นเหยื่อด้วยถูกกระทำ พยานต่างให้การกับลูกขุนว่า ไวน์สตีนแสดงออกว่า สถานภาพของเขาในวงการภาพยนตร์ทำให้สามารถใช้สิทธิล่วงละเมิดผู้หญิงได้ พยานคนหนึ่งเปิดเผยว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยบังคับให้นักแสดงหญิงคนหนึ่งมีความสัมพันธ์ทางเพศแบบสามคน เมื่อเธอไม่ยอมก็ตะโกนใส่ว่า “นี่เป็นเรื่องที่ทำกันในวงการภาพยนตร์ วิธีที่นักแสดงหญิงเป็นแบบที่เป็นอยู่นี่”

นอกจากนี้ยังมีพยานฝ่ายโจทก์ที่เป็นนักจิตวิทยาด้านนิติเวชศาสตร์ ซึ่งให้การต่อศาลว่ามีงานศึกษาที่พบว่า เหยื่อหลายคนยังคงติดต่อกับผู้กระทำการข่มขืน หลังเกิดเหตุรุนแรง เพราะหวังว่าจะทำให้ชีวิตเป็นปกติหลังจากถูกทารุณกรรม อิลูซซี่แถลงปิดท้ายว่า ไวน์สตีนประสงค์ที่จะติดต่อกับเหยื่อต่อไปเพื่อควบคุมพวกเขา

นอกจากคดีนี้แล้ว ไวน์สตีนยังต้องถูกตั้งข้อหาที่รัฐแคลิฟอร์เนียด้วย เขาถูกจับกุมด้วยข้อหาข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้หญิง 2 คนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2013 

 

ที่มา:

https://www.theguardian.com/film/2020/feb/24/harvey-weinstein-guilty-trial-charges-verdict

https://www.nytimes.com/2020/02/25/nyregion/harvey-weinstein-verdict-explained.html

https://edition.cnn.com/2020/02/24/us/harvey-weinstein-trial-verdict/index.html

ภาพ: REUTERS/Carlo Allegri

 

Tags: , , ,