ในยามที่ลมหนาวใกล้มาเยือนผืนดิน เหล่าแมกไม้ในป่าต่างก็ล่วงรู้สัญญาณล่วงหน้า จึงเริ่มเตรียมสลัดใบรับการมาเยือนของฤดูหนาว ในช่วงนี้เองเป็นช่วงเวลาแห่งการท่องเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชีวิตชีวาที่สุดของปี โดยเฉพาะที่ดินแดนอาทิตย์อุทัยเป็นแหล่งดูใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

เหล่านักท่องเที่ยวทั้งจากญี่ปุ่นเองและชาวต่างชาติต่างหลั่งไหลไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีหลากหลายแห่งทั่วญี่ปุ่น หนึ่งในนั้นคือ ‘เกียวโต’ อดีตเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีท่ามกลางวัดวาอารามเก่าแก่ที่ยากจะหาที่ใดเหมือน

เกียวโตแห่งภูมิภาคคันไซ คืออดีตเมืองหลวงอันรุ่งเรืองที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นอดีตมาจนถึงปัจจุบัน มีวัดทางศาสนานับพันแห่งกระจายตัวอยู่รอบเมือง ราวปลายเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ใบของต้นโมมิจิหรือเมเปิ้ลญี่ปุ่นที่อยู่ภายในวัดจะค่อยๆ เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองและกลายเป็นสีแดงสดในที่สุด วัดเหล่านี้ก็จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักล่าใบไม้เปลี่ยนสีทั่วทุกมุมโลก ซึ่งวัดแต่ละแห่งมีความสวยงามแตกต่างกันไป แข่งกันสลับสีสันสะท้อนแดดกันอย่างสวยงาม

วัดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวได้แก่ วัดคินคะคุจิ (วัดทอง) วัดที่มีปราสาทสีทองอยู่กลางน้ำ รอบๆ คือสวนแบบเซนที่สลับไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี วัดเอนโคจิ ที่มีสวนหย่อมนั่งชมใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างเพลิดเพลิน วัดกินคะคุจิ (วัดเงิน) วัดไดโกจิ  และยังมีวัดอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากนั้นในช่วงนี้วัดหลายแห่งยังเปิดให้ชม light up หรืองานแสดงไฟใบไม้เปลี่ยนสียามค่ำคืน อย่างเช่นวัดสำคัญอย่าง วัดคิโยมิซุเดระ (วัดน้ำใส) วัดเก่าแก่นับพันปีที่จะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายเพื่อขอให้เห็นกับตาสักครั้งในชีวิต

ทางฝั่งตะวันตกของเกียวโตคือย่านอาราชิยามะ เป็นอีกหนึ่งจุดที่ควรใช้เวลาเดินทั้งวัน ที่นี่มีความแตกต่างกับบริเวณอื่นเพราะจะเห็นใบไม้เปลี่ยนสีปกคลุมไปทั้งหุบเขา ติดกับหุบเขาคือแม่น้ำโออิและสะพานโทเง็ตสึเคียว ที่เราสามารถเดินลัดเลาะแม่น้ำเล่นหรือทำกิจกรรมล่องเรือพายถ่อลำได้

เหนือขึ้นไปบริเวณนี้มีวัดและศาลเจ้าต่างๆ มากมาย โดยมีวัดที่สำคัญคือวัดเท็นริวจิ และป่าไผ่ ที่จุดนี้เองแนะนำให้ลองหยุดใช้แผนที่และพาตัวเองเดินหลงไปตามทางเดินต่างๆ ดูสักครั้ง งดเร่งรีบสักพัก เจอวัดไหนก็แวะเข้าไปชม เหนื่อยก็แวะพักตามร้านชาวบ้าน แล้วจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้บรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นที่สุด

การเดินทางมาชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเทศกาลที่เกียวโต นอกจากจะได้ความรู้สึกอิ่มเอมไปกับความสวยงามที่เกิดจากธรรมชาติแล้ว สิ่งที่ต้องเตรียมตัวเตรียมใจอย่างหนึ่งคือ มีคนอีกนับแสนที่คิดแบบเดียวกับเรา การวางแผนเที่ยวในช่วงนี้จึงต้องทำการบ้านให้ดี ควรศึกษาเส้นทางการเดินทางให้แม่น เพราะที่เกียวโตมีทั้งรถไฟ รถไฟฟ้า รถเมล์  อีกทั้งวัดหลายๆ แห่งอาจต้องใช้บริการแท็กซี่หรือเดินเข้าไป ควรวางแผนเที่ยวทีละโซนจะได้ไม่เหนื่อยมาก หากต้องการเที่ยวสถานที่ที่คนยังไม่เยอะมากให้รีบมาแต่เช้า ควรหลีกเลี่ยงไปสถานที่ไฮไลต์ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะอาจต้องรอต่อคิวยาวมาก

การได้มาชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงที่ดีที่สุดเป็นความปรารถนาของใครหลายคนที่อยากเห็นสักครั้งในชีวิต อาจกล่าวได้ว่าเปรียบเสมือนการเสพติด ยิ่งเห็นยิ่งอยากมองมันให้นานที่สุด  ยิ่งเห็นยิ่งอยากกลับมาเห็นอีกเรื่อยๆ หากคิดว่าปีหนึ่งมีโอกาสเห็นได้เพียงครั้งเดียว แล้วหากได้ลองคำนวณถึงขวบปีที่เหลือในชีวิตขัยเรา ก็จะยิ่งรู้สึกว่า

โอกาสเห็นมันในฤดูกาลชีวิตของเรามันช่างน้อยเกินไป

Open: ขึ้นอยู่กับแต่ละวัดที่เข้าชม โดยส่วนใหญ่เปิด 08:00-17:00 น. ช่วง light up เปิดตั้งแต่ 17:30–21:00 น.

Tips: ใบไม้เปลี่ยนสีจะค่อยๆ ไล่จากเหนือลงใต้ของญี่ปุ่น การวางแผนเพื่อมาเที่ยวในช่วงพีกซึ่งเป็นช่วงที่สวยที่สุดขนาดคนญี่ปุ่นที่จะมาเที่ยวให้ตรงช่วงนี้ยังวางแผนยาก แนะนำให้เล็งช่วงอาทิตย์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายนไว้ แต่แน่นอนว่าอากาศแต่ละปีก็ไม่เหมือนกัน จึงควรเช็กบนเว็บไซต์ที่คอยพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีไว้ให้ดี  อีกหนึ่งทิปคือควรศึกษาเส้นทางเดินรถต่างๆ ในโตเกียว หรือการเชื่อมต่อกับโอซาก้าหรือเมืองอื่นๆ ไว้ก่อน จะได้ไม่ตกใจมากด้วยความซับซ้อนของระบบเดินรถและข้อแม้ของการใช้พาสต่างๆ ที่มีอยู่มากมายในภูมิภาคนี้

Impress Me!:  สีสันของใบไม้เปลี่ยนสีที่เห็นแต่สีแดงเต็มไปหมดเมื่ออยู่ท่ามกลางดงใบไม้เปลี่ยนสี โดยเฉพาะในมุมที่กระทบแสง ไม่สามารถเก็บบรรยากาศทั้งหมดด้วยภาพถ่าย

map: 

Tags: ,