‘ไลโคปีน’ ของดีใกล้ตัว

ช่วงนี้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวพรรณและลดริ้วรอยกำลังได้รับความนิยม และหลายคนก็คงคุ้นเคยกับสารที่ชื่อ ‘ไลโคปีน’ ซึ่งเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เหล่านี้

ไลโคปีน (lycopene) เป็นสารที่มีประโยชน์อย่างมากต่อร่างกาย แต่ไลโคปีนนั้น ร่างกายคนเราไม่สามารถที่จะสร้างขึ้นเองได้ จำเป็นต้องรับประทานเข้าไป ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดคือได้รับจากผักผลไม้ที่มีสีแดง โดยเฉพาะมะเขือเทศ แถมผักผลไม้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมายหลายชนิด

หากจะพูดถึงมะเขือเทศ นอกจากวิตามินและแร่ธาตุ มะเขือเทศยังมีสารไลโคปีนที่จะช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณและชะลอความชรา และยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านความเสื่อมของร่างกาย ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ขณะที่มีงานวิจัยมากมายที่สนับสนุนว่าไลโคปีนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งที่อวัยวะต่างๆ ได้ โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะอาหาร

เพียงแค่กินมะเขือเทศ ก็ได้ทั้งไลโคปีนและของแถมอีกเป็นขบวน

Photo by Thomas Martinsen on Unsplash

ด้วยคุณประโยชน์มากมาย มะเขือเทศสีแดงสวยใสจึงควรอยู่ในจานอาหารของคุณเป็นประจำ

แต่เดี๋ยวก่อน! คุณคงจะคิดว่าการกินมะเขือเทศสดคือทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะของสดย่อมดีกว่าของที่ปรุงแล้ว แต่ในกรณีของมะเขือเทศ ปริมาณของไลโคปีนจะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อนำมะเขือเทศสดไปผ่านกระบวนการแปรรูปให้อยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์มะเขือเทศชนิดต่างๆ เนื่องจากกระบวนการแปรรูปมีการใช้ความร้อน ซึ่งความร้อนจะทำให้การยึดจับของไลโคปีนกับเนื้อเยื่อของมะเขือเทศอ่อนตัวลง ไลโคปีนจึงถูกปลดปล่อยออกมามากขึ้น การบริโภคมะเขือเทศที่ผ่านความร้อนจึงช่วยให้ร่างกายนำไลโคปีนไปใช้ได้ดีกว่า

จากข้อมูลข้างต้น คนที่ไม่ชอบกินมะเขือเทศสดคงมีรอยยิ้มที่มุมปากแน่ๆ เพราะทุกวันนี้มีผลิตภัณฑ์มะเขือเทศให้บริโภคหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมะเขือเทศ ซอสมะเขือเทศ ซุปมะเขือเทศ และอื่นๆ

กินง่ายกว่าและอร่อยกว่ากินผลสด ราคาถูกกว่าอาหารเสริม แถมยังมีไลโคปีนมากกว่าผลสดอีกด้วย

Photo by Dennis Klein on Unsplash​

‘ซอส’ ที่เป็นมากกว่าซอส

ด้วยคุณประโยชน์ของมะเขือเทศและไลโคปีน จึงมีการทำวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่า ‘ซอสมะเขือเทศโรซ่า ไลโคปีน’ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ซอสมะเขือเทศเพื่อสุขภาพที่คงไว้ซึ่งรสชาติของซอสมะเขือเทศ อีกทั้งด้วยกรรมวิธีการผลิตอันทันสมัย ทำให้ซอสมะเขือเทศโรซ่า ไลโคปีน มีปริมาณสารไลโคปีนมากกว่าซอสมะเขือเทศสูตรปกติถึง 3.5 เท่า หรือใน 1 ขวดของซอสมะเขือเทศโรซ่า ไลโคปีน จะมีไลโคปีนเท่ากับมะเขือเทศ 10 ลูก (ผลละ 100 กรัม)

นั่นหมายความว่าซอสมะเขือเทศโรซ่า ไลโคปีน 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม) จะมีปริมาณไลโคปีน 3.36 มิลลิกรัม (เท่ากับปริมาณไลโคปีนในมะเขือเทศ 1 ลูก)

หรือพูดง่ายๆ ว่าหากเราบริโภคซอสมะเขือเทศโรซ่า ไลโคปีน เพียงวันละ 2 ช้อนโต๊ะ เราก็จะได้รับไลโคปีนในปริมาณเพียงพอกับที่ร่างกายของเราต้องการ

ด้วยความที่ซอสมะเขือเทศโรซ่า ไลโคปีน เป็นซอสที่มากกว่าซอส การเป็น ‘ซอสจิ้ม’ จึงเป็นเรื่องธรรมดาเกินไป เพราะเราสามารถนำซอสมะเขือเทศโรซ่า ไลโคปีน มาทำเป็นเมนูอาหารและเครื่องดื่มสุขภาพได้อีกด้วย เช่น ‘ข้าวอบสูตรผิวเด้ง’ ‘แซนด์วิชไข่ลาวาชมพู’ หรือจะทำเป็นเครื่องดื่มอย่าง ‘ไลโคปีนมินต์เย็นฉ่ำ’

แค่ชื่อก็น้ำลายสอแล้วใช่มั้ยล่ะ!

ชมเมนูอื่นๆ จากซอสมะเขือเทศโรซ่า ไลโคปีน และขั้นตอนการทำได้ที่ www.rozalycopene.com

ที่มาของข้อมูล

กฤติยา ไชยนอก, ‘มะเขือเทศ กับ ไลโคพีน,’ ภาควิชาอาหารเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
‘มะเขือเทศ,’ https://th.wikipedia.org/
วิมล ศรีศุข, ‘กินมะเขือเทศอย่างไรได้ไลโคปีน (lycopene) สูง,’ สำนักข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
HonestDocs, ‘มะเขือเทศ กิน/ดื่มอย่างไร ให้ได้ประโยชน์สูงสุด’

FACT BOX:

ปริมาณไลโคปีนในมะเขือเทศและผลิตภัณฑ์มะเขือเทศ

ผลิตภัณฑ์มะเขือเทศ / ปริมาณไลโคปีน (มิลลิกรัมต่อน้ำหนัก 100 กรัม)

• มะเขือเทศสด / 0.88-4.20
• มะเขือเทศปรุงสุก / 3.70
• ซุปมะเขือเทศเข้มข้น / 7.99
• น้ำมะเขือเทศ / 5.00-11.60
• ซอสพิซซ่า / 12.71
• ซอสมะเขือเทศ / 9.90-13.44
• มะเขือเทศผง / 112.63-126.49
• ผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเข้มข้น / 5.40-150.0

ที่มา: วิมล ศรีศุข, ‘กินมะเขือเทศอย่างไรได้ไลโคปีน (lycopene) สูง,’ สำนักข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

DID YOU KNOW?

เนื่องจากซอสมะเขือเทศทั่วไปมีส่วนผสมของน้ำตาล อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานหรือผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แต่สำหรับซอสมะเขือเทศโรซ่า ไลโคปีน เป็นซอสมะเขือเทศเพื่อสุขภาพที่ไม่ใส่น้ำตาล แต่ใช้สารสกัดจากหญ้าหวานเป็นสารทดแทนความหวาน ซึ่งไม่ให้พลังงานและไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้ได้รสชาติของซอสที่อร่อยลงตัว และดีต่อสุขภาพอีกด้วย