โดยปกติแล้วถ้าพูดถึงสปอร์ตบาร์ในเมืองไทย (หรือต่างประเทศ) ภาพแรกที่มักจะเข้ามาในหัวมักจะเป็นบาร์ฝรั่งสไตล์ไอริช กับเฟอร์นิเจอร์ไม้โต๊ะใหญ่รองรับแฟนบอลจำนวนมาก มาร่วมชมถ่ายทอดสดในช่วงสุดสัปดาห์ด้วยกันพร้อมเบียร์ Guinness แก้วโต

สปอร์ตบาร์ที่ The Momentum อยากแนะนำในวันนี้ไม่มีส่วนคล้ายภาพที่บรรยายเมื่อสักครู่เอาเสียเลย แต่เป็นบาร์ญี่ปุ่นแห่งใหม่บนชั้นสองของ Nihonmachi Mall ที่หน้าตาค่อนไปทางร้านอาหารญี่ปุ่นกึ่งอิซากายะ บวกกับของสนุกๆ ทั้งจอทีวีสำหรับคอบอล โต๊ะพูล และตู้เกมให้ลูกค้าได้เลือกเล่นเลือกสนุกตามใจชอบสไตล์สปอร์ตบาร์

WHAT YOU SHOULD KNOW

หลายคนที่เดินทางไปฝากท้องไว้กับร้านอาหารญี่ปุ่นในย่านสุขุมวิทซอย 26 ย่อมรู้กันดีอยู่แล้วว่านิฮอนมาชิเปรียบเหมือนตัวแทนโซนร้านอาหารญี่ปุ่นแบบอิซากายะไว้ให้เลือกกินเลือกดื่มทั่วทั้งมอลล์ แต่น้องใหม่อย่าง Tokyo Hustler มาในคอนเซปต์ที่ค่อนข้างแตกต่างจากร้านเพื่อนบ้าน ตั้งแต่การตกแต่งที่หลุดออกจากสไตล์ Traditional Izakaya ที่เห็นได้ทั่วไป จนถึงอาหารที่ครอบคลุมเมนูหลากหลายกว่าเมนูปิ้งย่างเพียงอย่างเดียว และที่สำคัญคือมีค็อกเทลบาร์ที่สามารถรังสรรค์ค็อกเทลแก้วอร่อยจากวัตถุดิบที่มีความเป็นญี่ปุ่นได้อีกด้วย

เมื่อเดินเข้ามาผ่านประตูกระจกด้านหน้า ร้านจะถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนคร่าวๆ เริ่มจากห้องพิเศษสำหรับคนที่ไม่สูบบุหรี่ และโซนหลักที่แบ่งด้านหนึ่งไว้สำหรับคอเกม ด้วยโต๊ะพูลขนาดมาตรฐานที่จะมีนักสอยคิวจาก Bangkok Pool League มาแข่งขันกันที่นี่เป็นประจำทุกวันจันทร์อีกด้วย

การใช้ข้าวของสไตล์ญี่ปุ่นต่างๆ มาตกแต่งภายในร้าน ทำให้ Tokyo Hustler หลุดออกจากภาพบรรยากาศบาร์ญี่ปุ่นแบบ traditional ทั้งการเลือกใช้โต๊ะไม้ สลับกับโต๊ะหินอ่อนและเหล็กที่เป็นโครงสร้างหลัก แล้วเลือกให้วอลล์เปเปอร์สีขาวดำรูปปลาคาร์ปทำหน้าที่เป็นพื้นหลังจากเพดานยาวลงมาจนถึงหลังบาร์ ก่อนวางกระจกไว้ตรงกลางกับนีออนไซน์อักษรญี่ปุ่นขนาดใหญ่ตรงกับบูทเก้าอี้กึ่งกลาง เป็นกิมมิกให้ลูกค้าถ่ายรูปกันได้สนุก ทั้งยังซ่อนไฟสีม่วงไว้ข้างในย้อมสีร้านอีกเล็กน้อยให้มีกลิ่นอายย้อนยุคอีกด้วย

EAT THIS

– เมนูอาหารที่นี่เน้นความหลากหลาย และใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ทุกวัน หากใครชอบกินซาชิมิ เราขอแนะนำให้เริ่มจากเซตปลาดิบรวมอย่าง The Treasure (1,250 บาท) ที่รวมของสดเอาไว้ด้วยกันถึง 7 อย่าง ตั้งแต่ โอโทโร ปลาฮามาจิ กุ้งโบตั๋น อากามิ ไข่ปลาแซลมอน ปลาแซลมอน และหอยเชลล์

– ต่อด้วยงานประณีตอย่าง Salmon Flower (180 บาท) ที่ใช้ปลาแซลมอนสด ห่อเป็นรูปดอกไม้กับไข่ปลาแซลมอน โทบิโกะ วาซาบิดอง ไชเท้าปรุงรส วางตรงกลางด้วยไข่นกกระทาดิบ กินคู่กับซอสเทริยากิและซอสสไปซี

– สำหรับคนรักเนื้อก็มีตัวเลือกแนะนำให้อย่าง Wagyu Foie Gras Roll โรลชิ้นพอดีคำสอดไส้ฟัวกราส์ อะโวคาโด พันด้วยเนื้อวากิว ราดมาด้วยเทริยากิซอส

– อีกหนึ่งความพิเศษคือหนึ่งในหุ้นส่วนของร้าน คุณเต่า-นิธิกร ธนทวีคูณ จากร้าน Bricks & Bone มาช่วยดูแลเรื่องเครื่องดื่มให้ ซึ่งนอกจากค็อกเทลแล้วยังหยิบเมนูเบอร์เกอร์ของทาง Bricks & Bone มาปรับให้เป็นสไตล์เฉพาะของ Tokyo Hustler ด้วย อย่าง Wagyu Beef Burger ที่ใช้ shoyu bun แป้งเบอร์เกอร์ที่สั่งทำพิเศษเป็นรสโชยุ มาสอดไส้ด้วยเนื้อวากิวชิ้นโต กินคู่กับซอสมายองเนสวาซาบิ

DRINK THIS

อย่างที่เกริ่นไปตั้งแต่ตอนแรกว่าเมนูที่นี่ค่อนข้างหลากหลาย มีให้เลือกทั้งเบียร์สดอาซาฮี เปิดขวดวิสกี้คราฟต์เบียร์จากญี่ปุ่นก็ได้ทั้งนั้น แต่ค็อกเทลก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ เพราะโดยปกติแล้วเราอาจหาค็อกเทลอร่อยๆ ดื่มได้ยากจากสปอร์ตบาร์ ยิ่งได้คุณเต่ามาทำเมนูซิกเนเจอร์ให้ จะไม่ลองได้อย่างไร

– ตัวแรก Signature #1 (320 บาท) เลือกใช้เหล้า Suntory เป็นเบส ผสมด้วย Chocolate Liqueur น้ำหวานรสอัลมอนด์ น้ำมะนาว น้ำหวาน ช็อกโกแลตบิตเตอร์ และไข่ขาว เสิร์ฟในแก้วชา โรยผงโกโก้ เสิร์ฟคู่กับช็อกโกแลต

– ตามมาด้วย Signature #2 (320 บาท) ที่คราวนี้เลือกใช้เหล้าวอดก้าเป็นหลัก ผสมสาเก น้ำเชื่อมเอลเดอร์ฟลาเวอร์ น้ำลิ้นจี่ น้ำมะนาว และน้ำผึ้ง ก่อนเชกแล้วกรองลงถ้วยชา ท็อปด้านบนด้วยเบียร์อาซาฮี แต่งด้วยโป๊ยกั๊ก เสิร์ฟคู่กับถั่วแระญี่ปุ่น

– แก้วสุดท้าย Signature #3 ใช้ฮานามิจิน ผสมกับสาเก Amaro น้ำแอปเปิ้ล น้ำเชื่อมซากุระ น้ำมะนาว และไข่ขาว เสิร์ฟในแก้วค็อกเทลและรมควันไม้ซากุระก่อนเสิร์ฟ

นอกจากนี้ที่ร้านยังมีวงดนตรีสดเล่นทุกวันจันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่สองทุ่มเป็นต้นไปอีกด้วย

TOKYO HUSTLER

Open: เปิดให้บริการทุกวัน 17.00-01.00 น.

Address: ชั้น 2 โครงการนิฮอนมาชิ (ด้านหลัง K-Village)

Tel: 0 2258 1722

Budget: 500-1,000 บาท

Parking: ลานจอดรถนิฮอนมาชิ

Map:

Tags: ,