ใครจะรู้ว่าความชื่นชอบในไอศกรีมแบบอิตาลีหรือที่คนที่โน่นเรียกว่า เจลาโต้ จะทำให้คุณเกรซ -ธนมาษ อัษฎมงคลพันธ์ ผันตัวเองจากเส้นทางสายแฟชั่น มาเป็นเจ้าของธุรกิจคาเฟ่อย่างเต็มตัว คุณเกรซชื่นชอบเจลาโต้จากการไปเรียนปริญญาโทสาขา Fashion Entrepreneurship ที่สถาบัน Marangoni Fashion Institute ที่มิลาน และเป็นแฟนคลับตัวยงของร้าน Il Massimo del Gelato ร้านเจลาโต้ที่ขึ้นชื่อของมิลาน
“เจลาโต้ของที่นี่มีความอร่อยมากและได้รสชาติของวัตถุดิบที่ใช้ ที่หน้าร้านจะมีผลไม้ที่ใช้ในแต่ละวันกองโชว์ให้ดูอยู่” คุณเกรซชื่นชอบเจลาโต้ของที่นี่จนถึงขนาดไปเจรจาตกลงขอซื้อแฟรนไชส์มาเปิดที่เมืองไทย แต่ถูกปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม คุณลุงเจ้าของร้านได้ชี้ช่องทางให้คุณเกรซไปเรียนทำเจลาโต้ที่เป็นเจ้าของสูตรไอศกรีมของร้านนี้ที่สถาบันเล็กๆ ไม่มีชื่อที่เมืองเบอร์กาโม อยู่ห่างจากมิลานประมาณ 40 กิโลเมตร เส้นทางของ Grazia Gelato & Coffee จึงได้เกิดขึ้น
คุณเกรซอธิบายให้ฟังว่าความแตกต่างระหว่างเจลาโต้และไอศกรีมโดยทั่วไปอยู่ที่ เนื้อสัมผัสและรสชาติของวัตถุดิบที่เจลาโต้จะโดดเด่นกว่าในเรื่องนี้ เจลาโต้มีเนื้อเนียนนุ่ม เนื่องจากมีอากาศเข้าไปผสมน้อยกว่าและยังมีไขมันน้อยกว่าไอศกรีมโดยทั่วไปถึง 90% จึงสามารถรับรู้ถึงรสชาติของวัตถุดิบในเจลาโต้ได้ดีกว่าไอศกรีมโดยทั่วไป
สำหรับเจลาโต้ที่ขายกันในเมืองไทยคุณเกรซยังไม่เห็นเจลาโต้เจ้าไหนที่ทำตามวิถีอิตาเลียนแท้เลย “เจลาโต้ส่วนใหญ่จะมีการใส่ emulsifier ให้เนื้อจับตัวกันรวมถึงสารเคมีต่างๆ เพื่อยืดอายุเจลาโต้ แต่เจลาโต้ของที่นี่เราไม่ใส่สารพวกนั้นเลย และเราวัตถุดิบ สด ใหม่ ทุกอย่าง” เจลาโต้ที่ร้าน Grazia Gelato & Coffee ใช้เครื่อง Frigomat GX ซึ่งสามารถทำเจลาโต้ได้ภายใน 15 นาทีและคาเฟ่แห่งนี้ยังเป็นร้านแรกในประเทศไทยที่อิมพอร์ตเครื่องทำไอศกรีมราคาหลักล้านมาใช้ ซึ่งผลลัพท์ของมันคือ เจลาโต้เนื้อเหนียวนุ่มที่เต็มไปด้วยรสชาติสดของวัตถุดิบ
รสชาติของเจลาโต้จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ (เริ่มต้นที่ถ้วยละ 120 บาท) ตามวัตถุดิบที่มีในแต่ละวัน เช่น รสช็อกโกแลต Three Masketeers ที่ผสมช็อกโกแลตถึงสามประเภทเข้าด้วยกัน รสกรีกโยเกิตที่มีความหอมและสดชื่น รสลิ้นจี่และมะนาวที่มีรสเปรี้ยวหวาน และ รสซิกเนเจอร์ของร้านอย่าง Grazia ที่ทำจากนมอัลมอนล์และอโวคาโดให้ความหอมมัน เหมาะกับคนรักสุขภาพด้วย
espresso (85 บาท)
สำหรับในส่วนของกาแฟ มีคุณนิโคลา เอเบร์เร ซึ่งเป็นบาริสต้าของร้านและแฟนของคุณเกรซเป็นคุณดูแล ซึ่งคุณนิโคลามีประสบการณ์ในร้านกาแฟแบบอิตาลีแท้ๆ จึงมั่นใจได้ว่ากาแฟที่นี่มีความเต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นอิตาเลียนที่แท้จริง คุณนิโคล่าเลือกใช้เมล็ดกาแฟของ Filicori Zeccini ซึ่งเป็นแบรนด์เล็กๆ ของอิตาลีที่ผสมเมล็ดกาแฟโรบัสต้าและอาราบิกาเพื่อความบาลานส์ของรสชาติ
คาปูชิโน่ (105 บาท)
Caffe Nutellino (115 บาท)
ใครสนใจการกินกาแฟแบบอิตาลีแท้ สามารถสั่ง espresso (85 บาท) เป็นชอร์ตมาดื่มได้โดยทางร้านเสิร์ฟพร้อม sparkling water หรือ Grazia Shakerato (125 บาท) เอานับชอร์ตเอสเปรสโซ่มาเชคกับน้ำแข็งให้เนื้อสัมผัสนุ่ม ออกหวานเล็กน้อย ใครชอบช็อกโกแลตห้ามพลาด Caffe Nutellino (115 บาท) หรือช็อตเอสเปรสโซผสมกับนูเทล่าพร้อมฟองนมนุ่มด้านบน ส่วนใครชอบกาแฟร้อนเราขอแนะนำ คาปูชิโน่ (105 บาท) ซึ่งคุณนิโคลาทำแบบอิตาลีแท้จึงมีฟองนุ่มนุ่มมากกว่าที่อื่นๆ
Grazia Shakerato (125 บาท)
นอกจากความโดดเด่นด้านกาแฟและเจลาโต้แล้ว การตกแต่งร้าน Grazia ยังมีความพิเศษอีกด้วย บ้านทาวโฮมส์แห่งนี้เป็นบ้านพี่ชายคุณเกรซซึ่งมีการเพิ่มองค์ประกอบแบบอาร์คโค้งเข้าไปเลยให้บรรยากาศในความเป็นเมืองเวนิส ผสมกับของตกแต่งแบบวินเทจซึ่งเป็นของสะสมของคุณเกรซที่เจ้าตัวซื้อมาจากอิตาลี ทำให้ Grazia ให้บรรยากาศที่น่าถ่ายรูปทำให้ร้านคนเยอะมากในวันหยุด เราขอเตือนไว้ก่อนว่าให้รีบมาตั้งแต่เช้าจะได้ดื่มด่ำไปกับเจลาโต้และกาแฟอย่างเต็มที่
Fact Box
- Grazia Gelato & Coffee ซ.วัดตะเคียน ถ.นครอินทร์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เปิดบริการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 8.00-19.00 น. (ปิดวันจันทร์) โทร. 082-244-4562 หรือ fb.com/grazia.gelatoandcoffee