‘น้ำหยดลงหินทุกวัน หินยังกร่อน’ 

วลีคลาสสิกที่ว่าด้วยเรื่องของความพยายามไม่ลดละ ย่อมประสบความสำเร็จบ้างไม่มากก็น้อย วลีนี้มักถูกนำมาใช้เปรียบเทียบกับความรัก โดยเป็นการให้กำลังใจฝ่ายที่กำลังทำการจีบคนที่ตัวเองชอบ ว่าหากพยายามทักไปทุกวัน สักวันหนึ่งเขาคงใจอ่อนยอมเปิดใจคุยกับเรา แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคำตอบจากเขาคนนั้น เป็น ‘รางวัลของความพยายาม’ โดยแท้จริง เพราะการกระทำเช่นนี้ อาจจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘Firedooring’ อยู่

Firedooring หรือ Firedoor ถ้าแปลตรงตัวก็คือ ‘ประตูหนีไฟ’ แต่บางครั้ง Firedooring ถูกนำเอามาเปรียบเทียบให้เห็นในเรื่องของความสัมพันธ์ที่มีผู้พยายามพูดคุยติดต่อปฏิสัมพันธ์อยู่ฝ่ายเดียว โดยนานๆ ทีถึงจะมีการตอบรับกลับมาจากอีกฝ่าย และเกิดขึ้นเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายอยากพูดคุยด้วยเท่านั้น ความสัมพันธ์นี้จึงเปรียบเสมือนกับประตูหนีไฟแน่นหนา ที่สามารถผลักเปิดออกได้เพียงฝั่งเดียวเท่านั้น แม้จะลงแรงผลักจากอีกฝั่งมากเท่าไรก็ไม่มีวันเปิดออกได้

ทั้งนี้ คำว่า Firedooring ไม่ได้มีความหมายในเชิงความสัมพันธ์ช่วงเริ่มต้น หรือช่วงเริ่มจีบกันเพียงอย่างเดียว Firedooring สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทุกช่วงความสัมพันธ์ หากความสัมพันธ์นั้นขึ้นตรงกับความต้องการของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่ได้คำนึงถึงความต้องการของอีกฝ่ายเลย

ตัวอย่างของ Firedooring อาจเป็นเมื่อเราพยายามส่งข้อความไปหาคนคนหนึ่งเพื่อพูดคุยทำความรู้จักกัน แต่ไม่ได้รับข้อความใดๆ ตอบกลับมาเลยนานนับสัปดาห์ กระทั่งวันดีคืนดีเขาคนนั้นก็ตอบกลับมาอย่างเป็นมิตร หรือถึงขั้นชวนไปกินข้าวอย่างสนิทสนม ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เรายังเหมือนคนแปลกหน้าสำหรับเขาอยู่เลย 

หากตัวอย่างด้านบนยังไม่ชัดพอ ลองเช็กสัญญาณด้านล่างต่อไปนี้อีกที ว่าความสัมพันธ์ของคุณเข้าข่ายนี้หรือไม่ ถ้าใช่ครบทุกข้อ คุณกำลังตกอยู่ในภาวะ Firedooring เรียบร้อยแล้ว 

– เขาไม่เคยตอบกลับข้อความหรือคำชักชวนอะไรของเราเลย แต่เรากลับเป็นฝ่ายตอบกลับเขาเสมออย่างรวดเร็ว

– เมื่อเจอกันโดยบังเอิญ เขาทำกับเราเหมือนกับว่าเราเป็นคนแปลกหน้า แต่เมื่อเขาเป็นคนชวนเราไปไหนมาไหนเอง เรากลับมีความสำคัญขึ้นมา

– เมื่อเราพยายามที่จะออกมาจากความสัมพันธ์กับเขา เขาจะเริ่มไม่พอใจ และทำเป็นเหมือนว่าเรากับเขากำลังมีความรู้สึกพิเศษบางอย่างต่อกัน

ในความเป็นจริง ความสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องเท่าเทียมกันอย่างแท้จริงเสมอไป บางคนอาจจะมีความสุขกับการได้เป็นฝ่ายให้มากกว่า บางคนอาจจะมีความสุขกับการได้เป็นผู้รับ แต่สิ่งที่สำคัญคือการพูดคุยกันเพื่อหาจุด ‘พอดี’ ในความสัมพันธ์ให้เจอ และถึงแม้ว่าในความสัมพันธ์นั้นอาจจะไม่มีการแบ่งหน้าที่แบบ 50:50 ก็ไม่ควรเป็นการพยายามจากฝ่ายเดียวแบบ 10:90 เช่นกัน เพราะพวกเราทุกคน ไม่ว่าใครก็ตาม ล้วนมีค่ามากกว่าการเป็นแค่ ‘คนรับใช้’ ทางความรู้สึกของใครสักคน

ที่มา:

https://www.joe.ie/life-style/firedooring-dating-relationship-604920

https://metro.co.uk/2017/10/27/firedooring-might-be-the-worst-dating-trend-yet-7031354/

https://www.womenshealth.com.au/firedooring-dating-trend

Tags: ,