ถัดจากเยอรมนี กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียมและที่ตั้งของสำนักงานสหภาพยุโรป จะให้บริการขนส่งสาธารณะฟรี ในวันที่อากาศทึมเทาจากมลพิษ เพื่อลดระดับความรุนแรงของมลพิษทางอากาศและปฏิบัติตามกฎของสหภาพยุโรป
กฎหมายใหม่ระบุว่า หากคุณภาพอากาศของเมือง มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือค่า PM2.5 สูงเกินกว่าค่าเฉลี่ยซึ่งอยู่ที่ 51-70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรติดต่อกันสองวัน บริการขนส่งสาธารณะในเมือง ได้แก่ รถเมล์ รถราง และรถไฟให้ดินจะไม่เก็บค่าบริการ รวมถึงระบบบริการรถจักรยานสาธารณะด้วย นอกจากนี้ ยังจะจำกัดความเร็วของรถยนต์และห้ามเผาฟืน เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศในเมือง
ขณะนี้กฎหมายอยู่ในระหว่างการพิจารณา คาดว่าจะสามารถประกาศบังคับใช้ภายในฤดูร้อนของปีนี้
ปาสกัล สเม็ต (Pascal Smet) รัฐมนตรีด้านการขนส่งของบรัสเซลส์ (Brussels’ mobility minister) กล่าวว่า มาตรการนี้จะปรับปรุงด้านภาษีและแผนจัดผลประโยชน์ ซึ่งผู้ใช้รถยนต์กว่า 350,000 คันในเมืองได้รับมาหลายสิบปี
“เราต้องสร้างพื้นที่สาธารณะที่มีคุณภาพ” เขากล่าวกับเดอะการ์เดียน “งานวิจัยแสดงให้เห็นว่ายิ่งเราให้พื้นที่กับรถยนต์มาก ก็ยิ่งดึงดูดรถยนต์มาก เมืองที่เป็นมิตรกับรถยนต์มากที่สุดเป็นเมืองที่รถติดที่สุด การให้พื้นที่คืนแก่คนเดินเท้าและคนขี่จักรยาน จะทำให้เมืองต่างๆ สามารถสร้างพื้นที่ที่ทำให้คนได้เจอกันและเชื่อมโยงกันได้”
ความล้มเหลวในการจัดการกับมลพิษทางอากาศของเมืองนี้สร้างความอับอายให้กับเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป และนักการทูตที่มักจะมาประชุมเรื่องมลพิษทางอากาศที่นี่
เดือนที่แล้ว กรุงบรัสเซลส์วางแผนจัดการปัญหามลพิษทางอากาศด้วยการกำหนดพื้นที่มลพิษต่ำ ซึ่งห้ามรถยนต์ที่ก่อมลพิษวิ่งบนถนน ภายในปี 2030 รถเมล์จะวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า
ประชาชนสามารถตรวจสอบระดับคุณภาพอากาศเองได้ผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ หรือดูว่ามลพิษทางอากาศต่ำกว่ามาตรฐาน
ขณะนี้ยังมีการวางแผนที่จะสร้างเมืองที่เป็นมิตรกับเด็กและครอบครัว สเม็ตกล่าวว่า “แนวคิดนี้ไม่ได้ห้ามรถยนต์วิ่งในเมือง แต่จะหาสมดุลใหม่”
ที่มาภาพ: REUTERS/Francois Lenoir
ที่มา:
Tags: Belgium, ขนส่งมวลชน, ระบบขนส่งสาธารณะ, มลพิษทางอากาศ, บรัสเซลส์, เบลเยียม
