ทำไมเมืองผู้ดีถึงต้องมีกระทรวงแห่งความเหงา

รัฐบาลสหราชอาณาจักรเพิ่งผุดตำแหน่งใหม่ ‘รัฐมนตรีกระทรวงแห่งความเหงา’ ออกมารับมือกับความโดดเดี่ยวที่กำลังระบาดไปทั่ว

ฟังดูเหมือนโรแมนติก แต่ความเหงาในที่นี้เป็นปัญหาบาดลึกกินจิตใจและสุขภาพของชาวบริติชกว่าเก้าล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ มีคนแก่ราวสองแสนคนที่แทบไม่มีบทสนทนากับใครเลยเกินกว่าหนึ่งเดือน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือญาติ  และคาดว่าราวครึ่งหนึ่งของคนที่อายุเกิน 75 ปี ซึ่งคิดเป็นประชากรราวสองล้านคนทั่วเกาะอังกฤษ อาศัยอยู่ตามลำพัง

เทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรแถลงเรื่องนี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (17 ม.ค.) เธอบอกว่า รัฐบาลสานต่อข้อเสนอเรื่องการตั้งคณะกรรมาธิการแห่งความเหงา ที่เคยเสนอโดย โจ ค็อกซ์ ส.ส.หญิงดาวรุ่งจากพรรคแรงงานที่ถูกยิงเสียชีวิตจากกลุ่มขวาจัดเมื่อกลางปี 2016

เพื่อแก้ไขปัญหาความเหงา เทรซี เคราช์ รัฐมนตรีกระทรวงการกีฬาและประชาสังคมวัย 42 ปี จะควบตำแหน่งนี้

เมื่อความเหงาไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ภาระงานที่ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือความเหงา จะเริ่มจาก

• การคลอดยุทธศาสตร์รับมือความเหงา ที่คาดว่าจะจัดทำเสร็จสิ้นภายในปีนี้ ตั้งเป้าให้เกิดความร่วมมือจากทั้งรัฐบาลท้องถิ่น หน่วยงานบริการสาธารณะ อาสาสมัคร ภาคชุมชนและธุรกิจ ที่จะมาช่วยกันรับมือความโดดเดี่ยว
• การศึกษาผลกระทบที่มาจากความเหงา โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์
• การกำหนดตัวชี้วัดเกี่ยวกับความเหงาในทุกช่วงวัย โดยทำงานวิจัยร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ
• การจัดหางบประมาณ ที่รัฐบาลอาจแสวงหาและทำงานร่วมกับองค์กรการกุศลต่างๆ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การตั้งตำแหน่งรัฐมนตรีแห่งความเหงาคือส่วนหนึ่งของการรำลึกถึง ส.ส.โจ ผู้ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนสิทธิมนุษยชน เธอเคยออกมาวิพากษ์มาตรการทางทหารของอังกฤษในสงครามซีเรีย และยังเป็นคนหนึ่งที่รณรงค์อย่างหนักหน่วงให้สหราชอาณาจักรคงอยู่กับสหภาพยุโรป

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์จิดกัดเรื่องนี้เอาไว้นิดๆ โดยเริ่มต้นข่าวว่า นับแต่สหราชอาณาจักรโหวตตัวเองให้ออกจากการเป็นสมาชิกภาพของสหภาพยุโรป ผลที่ออกมาก็คือ การโดดเดี่ยวประเทศตัวเอง ให้กลายเป็นเมืองเกาะแสนเหงา

ที่มา:

https://www.gov.uk/government/news/pm-commits-to-government-wide-drive-to-tackle-loneliness

https://www.nytimes.com/2018/01/17/world/europe/uk-britain-loneliness.html?_r=0