ในที่สุด เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรก็ได้สิ้นสุดการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียูและเข้าสู่ ‘ช่วงเปลี่ยนผ่าน’ ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2020 นับว่า Brexit ได้เกิดขึ้นแล้วหลังจากที่ยืดเยื้อมายาวนาน ชาวสหราชอาณาจักรส่วนหนึ่ง ต่างออกมาเฉลิมฉลองเคาท์ดาวน์รับเวลา 23.00 น. (อันเป็นเวลาตามข้อตกลง) ของวันที่ 31 กันอย่างครึกครื้น โดยเฉพาะพื้นที่หน้าอาคารรัฐสภา

แต่อีกด้านหนึ่งกลับดูเหงาๆ ดังเช่นในภาพนี้ ที่ชาวสหราชอาณาจักรฝั่งที่ไม่ต้องการแยกตัว ได้ฉายข้อความห่วงหาอาลัยสหภาพยุโรปที่ผาแรมส์เกตทางใต้ของเกาะอังกฤษตลอดวันที่ 31 มกราคม

ย้อนไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2016 ที่มีการลงประชามติเรื่อง Brexit ผลโหวตออกมาว่าเสียงข้างมากสนับสนุนให้สหราชอาณาจักรออกจากอียู แต่เป็นชัยชนะที่ฉิวเฉียด นั่นคือ 52 ต่อ 48 ผลโหวตครั้งนั้นทำให้ เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นประกาศลาออก เพราะเขามีจุดยืนว่าไม่ต้องการออกจากอียู 

คนต่อมาที่เข้ามาดำรงตำแหน่งคือ เทเรซ่า เมย์ กับภารกิจร่างข้อตกลง Brexit ให้เป็นที่ยอมรับได้ทั้งฝั่งสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป และนั่นเป็นภารกิจสุดหินที่ยืดเยื้อยาวนาน ร่างเงื่อนไขและข้อตกลงต่างๆ ของเธอถูกปัดตกตั้งแต่ในสภาอังกฤษ ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจลาออกในช่วงกลางปี 2019 ผู้ที่มารับตำแหน่งต่อคือบอริส จอห์นสัน และดีลของเขาก็สำเร็จในที่สุด

ในช่วงเปลี่ยนผ่านเป็นระยะเวลา 11 เดือนนี้ จอห์นสันยังคงต้องดำเนินการเจรจาข้อตกลงต่างๆ ให้เรียบร้อย ไม่เช่นนั้นจะจบลงที่ No-deal Brexit อันเป็นแผนสำรองที่เขาเสนอเอาไว้ นั่นหมายถึงกำแพงทางการค้าระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปจะเกิดขึ้นทันที 

อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้การเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างสหราชอาณาจักรกับประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรปจะยังคงเป็นเหมือนเดิม สำหรับชาวสหราชอาณาจักร พาสปอร์ตเล่มใหม่ปกสีน้ำเงินจะบังคับใช้ในช่วงต้นปี 2021 เป็นต้นไป ยังคงมีเวลากว่า 11 เดือนให้ชาวสหราชอาณาจักรและชาวยุโรปได้ปรับตัว คนที่อกหักเพราะ Brexit ก็อาจจะทำใจได้มากขึ้นจนกว่าถึงจะตอนนั้น

ภาพโดย: Ben STANSALL / AFP

Tags: ,