ก่อนถึงวันเลือกตั้งสหรัฐฯ เกาหลีเหนืออาจสร้างเซอร์ไพรส์แบบเบิ้มๆ เพิ่มอำนาจต่อรองให้วอชิงตันยอมลดราวาศอกในเรื่องการคว่ำบาตร นอกจากแสดงแสนยานุภาพใหม่ๆ แล้ว คิมจองอึนอาจส่งน้องสาวไปเจรจาความเมืองถึงเมืองหลวงของฝ่ายอเมริกัน   คนที่ติดตามสถานการณ์ตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีคงคุ้นเคยดี พอใกล้ถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ รัฐบาลเปียงยางมักสร้างข่าวอึกทึกครึกโครม ด้วยเจตนาที่จะเน้นย้ำข้อเรียกร้องต่างๆ ต่ออเมริกาและชาติตะวันตก จึงคาดกันว่า ในวาระการเลือกตั้ง 3 พฤศจิกายน คิมคงใช้โอกาสนี้ส่งสัญญาณอีกครั้ง

  ผู้นำเกาหลีเหนือจะสื่อสารด้วยวิธีการอย่างไร หลายฝ่ายกำลังคาดเดา นักสังเกตการณ์บอกว่า ในรอบนี้ เราอาจได้เห็นการสวนสนามครั้งยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมกับขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นล่าสุด เรือดำน้ำติดตั้งจรวดนิวเคลียร์ลำใหม่ ขีปนาวุธรุ่นแรกของเกาหลีเหนือที่ยิงได้จากใต้น้ำ

  แต่ภาพที่น่าจะเรียกเสียงฮือฮาที่สุด อาจไม่ใช่การแสดงขีดความสามารถทางทหาร แต่เป็นฉากการทูตที่น้องสาวของคิมจองอึนไปจับมือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในทำเนียบขาว

ตุลาคมได้ฤกษ์กดดันทรัมป์ 

อย่างที่รู้กัน การเจรจาว่าด้วยการถอดถอนนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี จนถึงวันนี้ยังไม่มีความคืบหน้า เหตุเพราะจุดยืนของแต่ละฝ่ายยังหาจุดบรรจบไม่เจอ

  เปียงยางอยากให้ลดอาวุธแบบค่อยเป็นค่อยไปแลกกับการผ่อนปรนมาตรการบังคับทีละขั้นตอน วอชิงตันยืนกรานให้กำจัดอาวุธให้หมดเสียก่อน จากนั้นค่อยมาพูดกันเรื่องเลิกคว่ำบาตรและปรับปรุงความสัมพันธ์

  ทรัมป์กำลังจะหมดวาระในตำแหน่ง ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต โจ ไบเดน มีคะแนนนำในทุกโพลสำรวจความนิยม ขณะที่เกาหลีเหนือถูกบีบคั้นอย่างหนักจากมาตรการปิดล้อมทางเศรษฐกิจ จังหวะนี้จึงน่าจะเป็นโอกาสที่คิมจะเสนอข้อแลกเปลี่ยน ก่อนที่ทรัมป์จะเข้าสู่วันชี้ชะตาในสนามเลือกตั้ง

นักสังเกตการณ์จึงขอให้จับตาดู ภายในเดือนตุลาคม คิมอาจพยายามกดดันให้สหรัฐฯ รับพิจารณาข้อตกลงแบบยื่นหมูยื่นแมวบางประการ วิธีกดดันอาจมาในหลากหลายรูปแบบ

เขี้ยวเล็บเสริมพลังต่อรอง  

ในวันที่ 10 ตุลาคม เกาหลีเหนือจะจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีการก่อตั้งพรรคแรงงาน ภาพถ่ายดาวเทียมเผยให้เห็นว่า กำลังมีการซ้อมพิธีสวนสนามเพื่อการนี้ ก่อนหน้านี้ ภาพถ่ายหลายภาพบ่งชี้ว่ามีการนำรถลำเลียงขีปนาวุธเข้ามาในพื้นที่

  การโชว์ขีปนาวุธไม่ใช่เรื่องใหม่ในพิธีสวนสนาม แต่ที่อาจเป็นเรื่องใหม่ก็คือ ขีปนาวุธที่จะนำออกแสดงในคราวนี้อาจเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้เชื้อเพลิงชนิดแข็ง ขีปนาวุธแบบนี้ติดตั้งและเตรียมยิงได้เร็วกว่ารุ่นปัจจุบันที่ใช้เชื้อเพลิงเหลว ทำให้สหรัฐฯ มีเวลาน้อยลงถ้าจะยิงทำลายบนแท่นยิง หรือตระเตรียมที่จะยิงสกัดกลางอากาศ

  การเปิดตัวอาวุธรุ่นใหม่นี้จะแสดงให้ผู้ชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องคิดหนัก เพราะเป็นสัญญาณว่าเปียงยางมีขีดความสามารถสูงขึ้นที่จะยิงหัวรบนิวเคลียร์ถล่มแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ และจะลบคำคุยโวของทรัมป์ที่ว่า ผลงานการทูตของเขาได้ทำให้เกาหลีเหนือหมดพิษสงที่จะเป็นภัยนิวเคลียร์คุกคามอเมริกาแล้ว

  ภาพถ่ายดาวเทียมยังแสดงให้เห็นความเคลื่อนไหวผิดสังเกตที่อู่ต่อเรือซินโปด้วย อู่ต่อเรือแห่งนี้ใช้เป็นที่สร้างเรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ ถ้าเกาหลีเหนือมีเรือดำน้ำซุ่มอยู่นอกชายฝั่งเพิ่มขึ้น นั่นจะทำให้บรรดาเสนาธิการฝ่ายอเมริกันต้องคิดหนักหากวางแผนใช้กำลังกับเกาหลีเหนือ

  ถ้าคิมปล่อยเรือดำน้ำลำใหม่ในเดือนตุลาคม แรงบีบคั้นของวอชิงตันที่จะให้เปียงยางกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ก็จะถูกถ่วงดุลยิ่งขึ้นด้วยอาวุธยุทธศาสตร์ชนิดใหม่นี้

  ขีปนาวุธในทะเลเป็นอำนาจต่อรองอีกอย่างหนึ่ง เมื่อปีที่แล้ว เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธ ปักกุกซอง-3 จากแท่นยิงใต้น้ำ คำนวณกันว่าขีปนาวุธรุ่นนี้มีพิสัยยิงประมาณ 1,900 กิโลเมตร การทดสอบในขั้นต่อไปอาจเป็นการยิงจากเรือดำน้ำ

  ถ้าประสบผลสำเร็จ ขีปนาวุธที่ยิงได้จากเรือดำน้ำจะเพิ่มแรงกดดันให้สหรัฐฯ ยอมลดราวาศอกเมื่อกลับขึ้นโต๊ะเจรจารอบใหม่

  ถึงแม้จุดยืนเจรจายังห่างไกลกัน ทว่าประตูของการต่อรองยังไม่ปิดตาย เพราะทรัมป์กับคิมต่างต้องการพูดคุยให้เกิดความคืบหน้า

  ทรัมป์อยากสร้างผลงานด้านการต่างประเทศเพื่อนำไปใช้สร้างภาพผู้นำสันติภาพ เรียกคะแนนนิยมในศึกเลือกตั้ง คิมอยากให้อเมริกาเพิ่มหลักประกันความมั่นคงแก่เกาหลีเหนือและระบอบปกครองของตัวเอง เช่น ลดกำลังทหารสหรัฐฯในเกาหลีใต้ ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร เป็นต้น

  ดังนั้น คาดกันว่า ทรัมป์อาจเปิดการพบหารือแบบตัวต่อตัวเป็นครั้งที่สี่ อย่างไรก็ตาม ในรอบใหม่นี้ มีกระแสข่าวว่า คิมอาจส่ง คิมโยจองน้องวาว เป็นผู้แทนเจรจาไปเยือนวอชิงตัน ถ้าการณ์เป็นไปตามที่คาด ก็จะนับเป็นครั้งแรกที่ตระกูลคิมได้เหยียบย่างเข้าไปในใจกลางของดินแดนประเทศคู่ปรับ

  ในเดือนตุลาคม คนที่ติดตามปมปัญหานิวเคลียร์เกาหลี มีนัดให้รอลุ้นความคืบหน้ากันอีกรอบ

 

อ้างอิง:

AP, 16 September 2020

AP, 18 September 2020

Bloomberg, 25 September 2020

 

 

Tags: , ,