หลังจากใช้เวลา 14 เดือนที่ แอมะซอน (Amazon) หาสถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่แห่งที่ 2 ในสหรัฐอเมริกา หรือ HQ2 จนทำให้เมืองต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาตื่นตัว ในที่สุด โพยก็ได้รับการเฉลยแล้วเมื่อ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ว่าเมืองที่ได้รับเลือกเป็นสำนักใหญ่ของแอมะซอนแห่งถัดไป จะมีสองแห่ง อยู่ในนิวยอร์กและเวอร์จิเนีย

ก็จะทำให้แอมะซอนซึ่งมีสาขาแรกที่ซีแอตเทิล จะมีสาขา 2 และ 3 ที่ย่าน ลองไอส์แลนด์ซิตี ในนิวยอร์ก และเมืองอาร์ลิงตัน ในรัฐเวอร์จิเนีย

ก่อนหน้านี้ การหาสำนักงานใหม่ของแอมะซอนทำให้ชุมชนต่างๆ ตื่นเต้นและพากันมายื่นข้อเสนอต่อบริษัท เพราะเมืองส่วนใหญ่ต้องการอ้าแขนรับบริษัทที่มีศักยภาพจ้างพนักงานไอทีเงินเดือนสูงประมาณ 50,000 คน ส่วนนักการเมืองมองว่าเป็นโอกาสที่ทำให้เมืองของตัวเองหรือเพื่อนบ้านรับกับยุคเทคโนโลยี

ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงได้รับข้อเสนอด้านมาตรการจูงใจทางภาษี 2 พันล้านเหรียญจากนิวยอร์กและเวอร์จิเนีย เวอร์จิเนียเสนอว่า บริษัทจะได้แรงจูงใจเป็นเงินสดมากกว่า 550 ล้านเหรียญสหรัฐจากรัฐภายในปี 2030 และได้อีก 200 ล้านเหรียญหากยังคงมีการจ้างงาน ทั้งสองรัฐมีเงื่อนไขผูกติดกับจำนวนตำแหน่งงานที่บริษัทสร้างขึ้น ถ้าแอมะซอนจ้างงานน้อยลงกว่าที่ตั้งไว้ การจ่ายเงินก็จะน้อยลง

นอกจากนี้ ทั้งสองรัฐยื่นข้อเสนอว่าจะช่วยแอมะซอนในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน โครงการฝึกอบรมด้านการทำงาน นิวยอร์กยังเสนอว่าสามารถรับรองได้ว่า บริษัทจะเข้าถึงลานจอดเฮลิคอปเตอร์ได้ ในพื้นที่ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่าย

อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์และฝ่ายนโยบายเตือนให้ตระหนักว่า นี่เป็นการใช้เงินสาธารณะเพื่อช่วยหนึ่งในบริษัทที่รวยที่สุดในโลก และจะเพิ่มราคาที่อยู่อาศัยและปัญหาจราจร

สิ่งที่น่าสนใจคือ ในกระบวนการเฟ้นหาเมืองที่ตั้งสำนักงานครั้งนี้ แอมะซอนก็ตีฆ้องร้องป่าวอยู่พอสมควร โดยประกาศอย่างยิ่งใหญ่เมื่อกันยายน 2017 เจฟฟ์ เบโซส (Jeff Bezos) ซีอีโอของบริษัทบอกว่า HQ2 จะใหญ่เทียบเท่ากับสำนักงานใหญ่ในซีแอตเทิล ผู้บริหารแอมะซอนบอกว่า ที่ต้องประกาศต่อสาธารณะก็เพราะว่า “คุณไม่สามารถคุยกับเมืองต่างๆ เกี่ยวกับการลงทุน 5 พันล้านเหรียญ และสร้างงาน 50,000 ตำแหน่งได้เงียบๆ หรอก”

นี่จึงกลายเป็นโครงการของเอกชนที่หวานหอมสำหรับรัฐบาล นิวยอร์กตื่นตัวทันที เสนอตัวไปตอนแรกทั้งหมด 4 เมือง คือ ลองไอส์แลนด์ โลเวอร์-แมนฮัตตัน มิดทาวน์-แมนฮัตตัน และบรู๊คลิน

แต่แอมะซอนแสดงความกังวลต่อกระบวนการวางแผนของเมือง ซึ่งล่าช้าและยอมให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและสภาเมืองคัดค้านโครงการได้ ด้วยความหอมหวลอยากชวนนักลงทุนเข้ามา ทำให้ทั้ง แอนดรูว เอ็ม คูโอโม่ (Andrew M. Cuomo) ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก และบิล เดอ บลาซิโอ (Bill de Blasio) นายกเทศมนตรี ตกลงกันว่า จะให้รัฐเป็นฝ่ายควบคุมการอนุมัติ ซึ่งหมายความว่า สภาแสดงความเห็นได้ แต่ไม่มีการใช้อำนาจยับยั้งโดยท้องถิ่น

ส่วนเวอร์จิเนียก็ยื่นข้อเสนอไปให้แอมะซอนเช่นกัน โดยเสนอคริสตัล ซิตี ในเขตอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งเต็มไปด้วยอาคารที่พัฒนาสำหรับทหารมาในทศวรรษ 1970 ตอนนี้พื้นที่ส่วนใหญ่รกร้าง หลังเหตุการณ์ 9/11 บริษัทพัฒนาที่ดินก็เข้ามาปรับปรุงพื้นที่

หลังจากลงพื้นที่สำรวจหลายครั้ง แอมะซอนก็เห็นว่า ถ้าแยกสำนักงานใหญ่ออกเป็นสองแห่ง น่าจะจ้างคนในแบบที่ต้องการง่ายกว่า คำนวณแบ่งครึ่งว่าประมาณ 25,000 คนต่อพื้นที่ และน่าจะง่ายต่อการรองรับของชุมชน แอมะซอนยังจะพัฒนาส่วนปฏิบัติการขนาดเล็ก และเสริมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านลอจิสติกส์ในแนชวิลล์ ซึ่งจะสร้างงานอีก 5,000 ตำแหน่ง

ทั้งหมดนี้ น่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปีหน้า

 

ที่มา​​:

Tags: ,