103 ปี คืออายุตัวเลขของ ‘มิตซูบิชิ มอเตอร์ส’ แบรนด์ยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ที่ตอนนี้ยังคงยืนหยัดท้าทายอยู่บนแนวหน้าของห่วงโซ่การแข่งขันตลาดรถยนต์ ด้วยเทคโนโลยีคุณภาพที่ไม่แพ้รถยนต์ฝั่งตะวันตกเลย แม้แต่น้อย
จุดเริ่มต้นของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส นี้ แรกเริ่มมาจากธุรกิจขนส่งด้วยน้ำมือการก่อตั้งของชายที่ชื่อ ‘ยาทาโร่ อิวาซากิ’ ภายใต้ชื่อบริษัท ‘มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสทรี’ พร้อมเดินหน้าเข้าสู่ฐานอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ประเทศญี่ปุ่น ปี พ.ศ.2460 นั่นเป็นครั้งแรกที่สายตาชาวโลกได้เห็น ‘Model A’ รถยนต์โดยสารสัญชาติญี่ปุ่นรุ่นแรกจากมิตซูบิชิ ออกมาโลดแล่นอยู่บนท้องถนนสำหรับใช้ในเชิงพาณิชย์
จนกระทั่งปี พ.ศ.2513 บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสทรี ตัดสินใจแยกแผนกยานยนต์ออกมา เพื่อเดินหน้าผลิตรถยนต์อย่างเต็มรูปแบบ กลายเป็นก้าวแรกของ ‘มิตซูบิชิ มอเตอร์ส’ สู่การเป็นแบรนด์รถยนต์อย่างเต็มตัว ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นปีที่พลิกโฉมครั้งใหญ่ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เมื่อมีการเปิดตัวรถยนต์ Galant Coupe GTX-1 เรียกเสียงฮือฮาไปทั่วโลก ด้วยรูปโฉมทรงสปอร์ตที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครในยุคนั้น
กาลเวลาก้าวผ่านไป จากก้าวแรกที่ประเทศญี่ปุ่น จนถึงบัดนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีฐานการผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 120 ประเทศบนโลก ซึ่งฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดนั้นอยู่ในประเทศไทย ประเทศที่ได้ชื่อว่ามีฐานการผลิตรถยนต์ติดอันดับ 1 ใน 5 ของทวีปเอเชียรวมอยู่ด้วย และเมื่อปี พ.ศ. 2561 ‘บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด’ ก็เพิ่งฉลองยอดการผลิตครบ 5 ล้านคัน แถมปีที่ผ่านมายังสามารถยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของตลาดรถยนต์ในบ้านเรา พร้อมกับสร้างสถิติยอดขายสูงสุดติด 3 อันดับแรก สวนทางกับความต้องการรถยนต์ในบ้านเราที่ลดลงทุกวัน
สิ่งนี้เองเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า รถยนต์จากบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส สามารถครองใจคนไทยได้เป็นอย่างดี จากคุณภาพผสมผสานกับเทคโนโลยีความทันสมัยแบบลงตัว
บทพิสูจน์ความเป็นตำนานกับการเป็นเจ้าแห่งสนามแข่ง
ย้อนกลับไปในปี พ.ศ.2513 เป็นต้นมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส นอกจากจะปฏิวัติโฉมหน้าของตัวเองให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์สายสปอร์ตแบบเต็มตัวแล้ว มิตซูบิชิยังยกระดับตัวเองไปอีกขั้นด้วยการก้าวไปสู่ความเป็นหนึ่งในด้านรถเอสยูวีอีกด้วย ซึ่งสิ่งที่กล่าวมานี้หาใช่การอุปโลกน์เองแต่อย่างใด เพราะการแข่งขันบนสนามคือบทพิสูจน์คุณภาพอย่างเป็นรูปธรรมได้ดีที่สุด
ตัวอย่างความสำเร็จระดับเมเจอร์ที่ถูกยกให้เป็นระดับตำนานของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส หนีไม่พ้นสถิติการกวาดชัยชนะ 12 ครั้งในทัวนาเมนต์ ‘ปารีส-ดาการ์’ ทัวนาเมนต์แข่งขันยานยนต์ระดับโลกที่ขึ้นชื่อเรื่องความหฤโหดของสภาพแวดล้อมอันทุรกันดารด้วยระยะทางกว่า 10,000 กิโลเมตร เริ่มตั้งแต่ Place du Trocadéro ในฝรั่งเศส ลากยาวถึงทะเลทรายดาการ์บนผืนแผ่นดินทวีปแอฟริกา แต่ต่อให้เส้นทางจะท้าทายเพียงใด ‘มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต’ กลับทำงานผลงานออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพแบบฉบับรถเอสยูวีได้อย่างครบถ้วน จนเป็นที่ยอมรับและถูกขนานนามว่า ‘ราชาแห่งทะเลทราย’
ด้านสายรถสปอร์ตที่ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ก็ถือเป็นการกลับมาทวงบัลลังก์เจ้าแห่งความเร็วอีกครั้ง เมื่อ ‘มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชั่น’ สามารถคว้าชัยชนะรายการ ‘เวิลด์แรลลี่แชมเปี้ยนชิพ’ (WRC) สมกับที่ถูกนิยามไว้ว่าเป็นรถยนต์ตระกูลแลนเซอร์ที่เหนือกว่ารุ่นก่อนๆ ถึง 9 เท่า จากการยกเครื่องใหม่ทั้งหมด โดยรถยนต์มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชั่น นั้นใช้เทคโนโลยีระบบ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) และเครื่องยนต์แบบ 4G63 เทอร์โบชาร์จ 2000 ซีซี สำหรับขับเคลื่อน เรียกได้ว่าเป็นการรวบรวมสุดยอดเทคโนโลยีทั้งหมดเข้าด้วยกันไว้ในรถสปอร์ตคันนี้ก็ว่าได้
ความสำเร็จบนสนามแข่งเหล่านี้ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส กลายเป็นเครื่องการันตีความเป็นแบรนด์ยานยนต์ระดับตำนานที่สามารถพัฒนาตัวเองผ่านทุกยุคทุกสมัยได้อย่างสมศักดิ์ศรี จนก้าวมาเป็นเจ้าแห่งสนามแข่งบนเวทีระดับโลกมากมายนับไม่ถ้วน
(รถยนต์ มิตซูบิชิ แลนเซอร์อีโวลูชั่น)
(รถยนต์ มิตซูบิชิ ปาเจโร )
ก้าวต่อไปของยุครถยนต์ที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม
แม้ว่าการเป็นเจ้าแห่งรถยนต์สายสปอร์ตและเอสยูวีจะเป็นเครื่องหมายการค้าของรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิก็ตาม แต่ในยุคที่สิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นสำคัญระดับโลก การปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับยุคสมัยถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใส่ใจอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผลนี้ทางมิตซูบิชิ มอเตอร์ส จึงหยิบตนตนความเป็นเจ้าแห่งความเร็วมาหลอมรวมเข้ากับเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า เพื่อพัฒนาเป็น ‘มีฟ อีโวลูชั่น ทรี’ รถแข่งพลังงานไฟฟ้าที่สลัดภาพลักษณ์รถรูปแบบไฟฟ้ารุ่นก่อนๆที่ต้องเป็นรถยนต์คันจิ๋วซะส่วนใหญ่ ซึ่งเจ้า มีฟ อีโวลูชั่น ทรี มาพร้อมกับเครื่องยนต์พลังมอเตอร์ไฟฟ้าดีกรี 611 แรงม้า ประกอบกับระบบขับเคลื่อน S-AWC และด้วยดีเอ็นเอของผู้ชนะที่ถูกใส่ลงไป ทำให้ ไอมีฟ อีโวลูชั่น ทรี เป็นอีกหนึ่งรถยนตร์ของค่ายมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่คว้ารางวัลมาได้ จากทัวนาเมนต์ ‘Pikes Peak International’ เมื่อปี 2014 ที่จัดขึ้นในรัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา
การมาของรถยนต์ตระกูล ไอ-มีฟ จากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ถือเป็นนิมิตรหมายใหม่ของแบรนด์ยานยนต์ประเทศญี่ปุ่นที่พร้อมแล้วกับการก้าวใหม่สู่การเป็นรถยนต์พลังงานสะอาดแบบเต็มตัว ควบคู่กับการพิสูจน์ให้เห็นถึงความใส่ใจที่มีต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน
( ไอ-มีฟ อีโวลูชั่น 3 แชมป์รถแข่งจากพลังงานไฟฟ้า)
อย่างไรก็ดีในประเทศไทยเองรถยนต์พลังงานสะอาดยังเป็นเริ่องที่ต้องได้รับการสนับสนุนอย่างมาก เพราะทั้งทรัพยากรและความพร้อมยังห่างไกลเมื่อเทียบกับรถยนต์ระบบปลั๊กอิน-ไฮบริด การจะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาวิ่งบนท้องถนนประเทศไทยคงจะยากจนลำบากเกินไป ทำให้ปัจจุบันฐานการผลิตรถยนต์ของมิตซูบิชิในบ้านเราตอนนี้ให้ความใส่ใจกับรถยนต์ปลั๊กอิน-ไฮบริดเป็นอย่างมาก เนื่องจากรถยนต์ปลั๊กอิน-ไฮบริด เองก็มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่ด้อยไปกว่าเทคโนโลยีรถยนต์ระบบไฟฟ้า ทำให้ตอนนี้รถยนต์ ‘มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี’ น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากที่สุดจากรถยนต์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส
สำหรับ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี เป็นรถยนต์ปลั๊กอิน-ไฮบริด รุ่นแรกของโลกที่ผสมผสานดีเอ็นเอความแข็งแกร่งระหว่าง ปาเจโร ตำนานรถยนต์เอสยูวีอันดับหนึ่ง และความปราดเปรียวจากเทคโนโลยีรถสปอร์ตของ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชั่น เข้าด้วยกัน อีกทั้งยังมีการนำเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าจากรถยนต์ตระกูล ไอ-มีฟ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายคันแรกบนโลก จนออกมาเป็นรถยนต์ที่พร้อมในทุกด้านพร้อมความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหมาะแก่ช่วงเปลี่ยนผ่านของยุครถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในไปสู่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ลงตัว พร้อมผ่านการการันตีมาแล้วด้วยการใช้งานจริงบนพื้นผิวถนนในหลายๆประเทศและยังมียอดขายที่ดีที่สุดในโลก
(มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี รถเอสยูวีแบบปลั๊กอิน-ไฮบริดรุ่
และวันที่ 1 ธันวาคม 2563 ที่งาน MOTOR EXPO เมืองทองธานี ‘มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี’ จะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ชาวไทยได้สัมผัสถึงประสบการณ์การขับขี่อันเปี่ยมด้วยคุณภาพ เรียกได้ว่าคอรถยนต์ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
สุดท้ายนี้เองเราคงจะมั่นใจได้ว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จะยังคงสร้างตำนานบทใหม่ แก่วงการยานยนต์ของโลก สมกับการเป็นตำนานมาอย่างยาวนาน ท่ามกลางการผลัดเปลี่ยนของเทคโนโลยี แต่เหนือสิ่งอื่นใดเวลาไม่สามารถทำให้คุณภาพของแบรนด์รถยนต์จากแดนอาทิตย์อุทัยนี้ลดลงเลย
(ระบบเติมพลังงานด้วยการชาร์จไฟฟ้า ในรถยนต์มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี)
ที่มา
- https://www.mitsubishi-motors.co.th/th/about-us/heritage
- https://www.mitsubishi-motors.co.th/th/about-us/heritage/Explore-pajero-sport
- https://www.mitsubishi-motors.co.th/th/about-us/heritage/explore-i-miev
- https://www.mitsubishi-motors.co.th/th/about-us/heritage/explore-outlander-phev