สถานภาพนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรของ เทเรซ่า เมย์ กำลังสั่นคลอนอย่างหนัก เมื่อส.ส.ของพรรคอนุรักษ์นิยมจำนวน 48 คน ยื่นหนังสือไม่ไว้วางใจเมย์ในฐานะหัวหน้าพรรคเมื่อวันพุธที่ 12 ธันวาคม อันเป็นผลมาการที่เมย์ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากการเจรจาจัดทำข้อตกลงเบร็กซิตจากทุกฝ่าย อีกทั้งตอนนี้ก็ยังไม่มีกำหนดว่าจะมีรัฐสภาจะลงมติได้เมื่อใด หลังจากที่เลื่อนการลงประชามติเมื่อวันจันทร์ที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา
เมย์ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังจากที่สหราชอาณาจักรลงมติแยกตัวออกจากยุโรปในปี 2016 ซึ่งเป็นที่รับรู้กันว่า ต้องรับผิดชอบให้การแยกตัวออกจากยุโรปเป็นไปอย่างราบรื่น
ในการลงมติเรื่องนี้ ส.ส.ของพรรคต้องยื่นหนังสือต่อสภาผู้แทนราษฎรที่ระบุว่าไม่ไว้วางใจเมย์อีกต่อไป หลังจากนั้น ส.ส.จะเริ่มลงคะแนนเสียงระหว่าง 18.00 น.จนถึง 20.00 น. ในวันเดียวกันที่ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร
เจค็อบ รีส-ม็อกก์ (Jacob Rees-Mogg) และสตีฟ เบเคอร์ (Steve Baker) ส.ส. พรรคอนุรักษนิยมระบุในแถลงการณ์ว่า แผนของเทเรซ่า เมย์จะทำให้รัฐบาลตกต่ำลง แต่พรรคของเราจะไม่ทน สมาชิกพรรคอนุรักษนิยมต้องตอบคำถามว่าพวกเขาอยากจะอยู่ภายใต้การนำของเมย์หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ส.ส. ใกล้ชิดกับเมย์ส่วนหนึ่งก็แสดงท่าทีสนับสนุนเธออยู่ เช่น เจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศทวีตข้อความว่า เมย์ได้รับแรงสนับสนุนเต็มที่จากเขา
เนื่องจากพรรคอนุรักษนิยมเป็นพรรคที่มีคะแนนเสียงมากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร ผู้ที่เป็นหัวหน้าพรรคก็จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปด้วย ถ้าเมย์ถูกขับออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เธอก็จะทำหน้าที่รักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจนมีการเลือกหัวหน้าพรรคใหม่ กระบวนการนี้อาจใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์
เมย์กล่าวว่า เธอจะต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ที่เธอได้รับ “ตอนนี้จะมีการลงมติไม่ไว้วางใจต่อการเป็นหัวหน้าพรรคของดิฉัน” เมย์แถลง และยังบอกอีกว่าหากเธอผ่านอุปสรรคเหล่านี้ไปไม่ได้ การแยกตัวออกจากยุโรปก็คงเลื่อนออกไป “การเปลี่ยนผู้นำจะทำให้ประเทศของเราตกอยู่ในความเสี่ยง และก่อให้เกิดความไม่แน่นอน ในช่วงเวลาที่เราต้องการมัน ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้คงมีแต่เจเรมี คอร์บินและจอห์น แมคดอนเนลล์” เมย์กล่าว
ตามระเบียบของพรรค ส.ส.เกินครึ่งหนึ่งต้องลงมติเห็นด้วยกับข้อเสนอของกลุ่มส.ส. เพื่อที่กระบวนการต่างๆ จะดำเนินได้ต่อไป
เมย์ต้องชนะด้วย 158 คะแนนจากจำนวนส.ส. 315 คนในสภาจึงจะเป็นหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรีต่อไป หากเมย์ชนะ การลงมติไม่ไว้วางใจต่อการเป็นหัวหน้าพรรคของเมย์จะไม่มีขึ้นไปอีก 1 ปี ถ้าเธอแพ้ ก็จะไม่มีสิทธิลงแข่งขันอีก ส.ส.พรรคอนุรักษนิยมจะเลือกผู้แข่งขันเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ 2 คน ซึ่งสมาชิกทุกคนของพรรคจะโหวตลงมติเลือกหัวหน้าพรรคในขั้นตอนสุดท้าย
พรรคแรงงานซึ่งเป็นฝ่ายค้านตำหนิพรรคอนุรักษนิยมว่าทำให้อนาคตของประเทศตกอยู่ในความเสี่ยง
“เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ สหราชอาณาจักรก็จะออกจากอียู ความอ่อนแอและความล้มเหลวของเมย์ทำให้รัฐบาลหยุดนิ่งอย่างสมบูรณ์ในช่วงเวลาที่สำคัญมากของประเทศนี้” เอียน ลาเวรี (Ian Lavery) ประธานพรรคแรงงานกล่าว “ความขัดแย้งภายในพรรคอนุรักษนิยมทำให้งานและความเป็นอยู่ของประชาชนตกอยู่ในความเสี่ยง”
ที่มา:
- https://www.businessinsider.com/a-no-confidence-vote-has-been-triggered-in-theresa-may-conservative-leader-prime-minister-2018-12
- https://www.bbc.com/news/uk-politics-46535739
- https://www.abc.net.au/news/2018-12-12/conservative-mps-trigger-no-confidence-vote-on-theresa-may/10612922
- https://www.nytimes.com/2018/12/12/world/europe/theresa-may-leadership-vote.html