วันนี้ (25 มิถุนายน 2025) หน่วยข่าวกรองกลาโหมสหรัฐอเมริกาเผยข้อมูลว่า ปฏิบัติการถล่มฐานนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่าน ไม่ได้ทำลายล้างโรงงานทั้งหมด แต่อาจแค่ช่วย ‘ชะลอ’ การพัฒนาอาวุธร้ายแรงนี้ ซึ่งต่างจากข้อมูลของ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ผู้นำสหรัฐฯ ที่อ้างว่า ฐานนิวเคลียร์ถูกทำลายล้างหมดจนไม่เหลือร่องรอยใด 

ทั้งนี้การประเมินดังกล่าวจัดทำโดยหน่วยข่าวกรองของกระทรวงกลาโหม เพื่อสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นจากปฏิบัติการ Midnight Hammer ที่สหรัฐฯ ใช้เครื่องบิน B2-Spirit 7 ลำ ทิ้งระเบิด GBU-57 หรือ Bunker Buster  ใส่โรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่าน ได้แก่ ฟอร์โดว์ (Fordow), นาตันซ์ (Natanz) และอิสฟาฮาน (Isfahan) โดย แดน แคน (Dan Can) ประธานคณะเสนาธิการ (Joint Chiefs of Staff) ย้ำว่า นี่เป็นปฏิบัติการทางอากาศโดยใช้เครื่องบิน B2 ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เพื่อหวังผลทำลายล้างอย่างราบคาบ

อย่างไรก็ตามมีการเปิดเผยผลการประเมินในหน้าสื่อ ที่ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าว 2 รายว่า แร่ยูเรเนียมที่ผ่านการสกัดเพื่อสร้างอาวุธนิวเคลียร์ และเครื่องหมุนเหวี่ยงแยกตะกอน ยังไม่ถูกทำลาย ซึ่งหน่วยข่าวกรองคาดว่า อิหร่านได้นำสต็อกแร่ยูเรเนียมออกไปก่อนที่สหรัฐฯ จะเปิดปฏิบัติการโจมตี

นอกจากนี้หน่วยข่าวกรองกลาโหมสหรัฐฯ เชื่อว่า ฐานผลิตนิวเคลียร์ของอิหร่านฝังลึกอยู่ใต้ดิน ฉะนั้นปฏิบัติการนี้จึงไม่ได้ทำลายล้างโรงงานอย่างราบคาบตามที่ทรัมป์กล่าวอ้าง โดยใช้คำว่า ‘Obliterated’ แต่ทำให้อิหร่านเสียเวลาล่าช้าในการดำเนินโครงการไปแค่ 1-2 เดือนเท่านั้น

ทันทีที่รายงานดังกล่าวเผยแพร่ไปในหน้าสื่อ แคโรไลน์ ลีวิตต์ (Karoline Leavitt) โฆษกประจำทำเนียบขาว ออกโรงแถลงการณ์ว่า การประเมินนี้ผิดพลาดอย่างสิ้นเชิง และเป็นความลับระดับชาติ แต่กลับเผยแพร่ออกไปยัง CNN โดยบุคคลนิรนาม เป็นคนขี้แพ้ในหมู่ข่าวกรอง โดยหวังจะทำลายชื่อเสียงทรัมป์ และดูหมิ่นนักบินที่ออกไปปฏิบัติการนอกประเทศ 

“ทุกคนรู้กันหมดว่า มันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณทิ้งระเบิด 14 ลูก หนัก 3 หมื่นปอนด์ลงเป้าหมาย แน่นอน มันคือการทำลายล้างราบคาบ” เลวิตต์กล่าว

ก่อนหน้านี้ กองทัพสหรัฐฯ เผยว่า ปฏิบัติการโจมตีฐานนิวเคลียร์อิหร่านคือ ความสำเร็จอันล้นหลาม ขณะที่ทรัมป์ ซึ่งเดินทางไปเนเธอร์แลนด์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอด NATO อ้างกับสื่อว่า ปฏิบัติการในอิหร่านเป็นหนึ่งในการโจมตีของกองทัพที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์ และฐานนิวเคลียร์ถูกทำลายหมดแล้ว

ขณะเดียวกันหน่วยข่าวกรองอิสราเอลเชื่อว่า ปฏิบัติการของสหรัฐฯ ต่อฟอร์โดว์ ได้รับผลกระทบน้อยกว่าที่คาดคิดไว้ และทำให้อิหร่านเสียเวลาพัฒนาอาวุธร้ายแรงนี้ไปอีก 2 ปี 

สำหรับความเห็นของนักวิชาการ เจฟฟรีย์ ลูอิส (Jeffrey Lewis) ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธยุทโธปกรณ์จาก Middlebury Institute of International Studies ที่วิเคราะห์สถานการณ์จากภาพถ่ายทางดาวเทียมผ่าน CNN ประเมินว่า การโจมตีของสหรัฐฯ ไม่ได้ทำลายล้างโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านจริงๆ เพราะมีฐานใต้ดินที่ตั้งใกล้นาตันซ์ อิสตาฟาน รวมถึงอีกที่อย่างปาร์ชิน (Parchin) ฐานปฏิบัติการใกล้เตหะรานที่แยกตัวออกไป ซึ่งอิหร่านอาจใช้เป็นฐานหลักฟื้นโครงการนิวเคลียร์ขึ้นมาใหม่

อันที่จริงมีคำถามทางวิชาการตั้งแต่หลังปฏิบัติการแล้วว่า ระเบิด Bunker Buster จะทำลายฐานใต้ดินของอิหร่านได้หรือไม่ ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐฯ ใช้วิธีทำลายอิสตาฟาน ที่มีฐานใต้ดินลึกกว่าฟอร์โดว์ ด้วยมิสไซล์โทมาฮอว์ก (Tomahawk) จากเรือดำน้ำ แทนที่จะทิ้งระเบิด เพราะสหรัฐฯ อาจจะคำนวณว่า ลำพังแค่ทิ้งระเบิดอาจเจาะลงไปไม่ถึงชั้นใต้ดิน

ปัจจุบัน สัญญาณการสงบศึกระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ยังไม่เกิดขึ้น 100% หลังทั้งสองฝ่ายต่างโบ้ยกันว่า อีกฝ่ายไม่ยอมหยุดยิงก่อน ขณะที่ทรัมป์แสดงอาการโมโหและวิจารณ์ 2 ประเทศ โดยเฉพาะอิสราเอล พันธมิตรชาติสำคัญในตะวันออกกลางว่า ให้สงบสติอารมณ์ก่อน

จากสงครามอิสราเอล-อิหร่านในระยะเวลา 12 วัน การโจมตีของอิสราเอลต่ออิหร่านทำให้มีผู้เสียชีวิต 610 ราย และบาดเจ็บ 4,767 ราย ขณะที่ปฏิบัติการโต้กลับของอิหร่านในอิสราเอล ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28 ราย ถือเป็นครั้งแรกที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของเทลอาวีฟถูกเจาะได้โดยมิสไซล์ของอิหร่าน

 

อ้างอิง

https://www.reuters.com/world/middle-east/trump-announces-israel-iran-ceasefire-2025-06-23/

https://edition.cnn.com/2025/06/24/politics/intel-assessment-us-strikes-iran-nuclear-sites

https://www.nytimes.com/2025/06/24/us/politics/trump-nato-iran.html

https://www.cbsnews.com/news/pentagon-briefing-us-strikes-iran-nuclear-sites/

Tags: , , , , , , ,