สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ 17 คน ร่วมลงชื่อในจดหมายเปิดผนึก เรียกร้องให้ผู้บริหารเฟซบุ๊กและกูเกิล ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ของเวียดนาม

เวียดนามเพิ่งผ่านกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงคัดค้านของประชาชนและธุรกิจต่างชาติ กฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2019 โดยกำหนดให้เฟซบุ๊ก กูเกิล และบริษัทด้านเทคโนโลยีระดับโลกอื่นๆ ต้องจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ในเวียดนาม ต้องเปิดสำนักงานในประเทศ และหากมีการร้องขอ จะต้องลบเนื้อหาภายใน 24 ชั่วโมง รวมถึงส่งข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ให้รัฐบาลด้วย

กลุ่มสมาชิกสภาคองเครส 17 คนซึ่งมาจากทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครตชี้ว่า ถ้อยคำในกฎหมายที่กว้างและคลุมเครือเช่นนี้ จะเปิดโอกาสให้รัฐบาลเวียดนามเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว สอดแนมผู้ใช้ และจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกของพลเมืองเวียดนาม และยังอาจเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจของเวียดนาม และส่งกระทบต่อการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจอเมริกันในเวียดนาม เพราะบริษัทที่ทำธุรกิจบนอินเทอร์เน็ตจะต้องจัดเก็บข้อมูลในเวียดนาม และเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้ตามคำขอของทางการเวียดนาม

พวกเขาระบุด้วยว่า หากรัฐบาลเวียดนามบีบให้เฟซบุ๊กและกูเกิลต้องสมรู้ร่วมคิดในการเซ็นเซอร์ ก็เป็นเรื่องน่าห่วงที่ควรต้องยกระดับเป็นประเด็นทางการทูต รวมถึงระดับสูงขึ้นไป

ด้านพันธมิตรอินเทอร์เน็ตเอเชีย (Asia Internet Coalition-AIC) ซึ่งเป็นกลุ่มความร่วมมือของธุรกิจเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตชั้นนำ เพื่อส่งเสริมความเข้าใจต่อนโยบายด้านอินเทอร์เน็ตในเอเชียแปซิฟิก มีสมาชิก 10 องค์กร ซึ่งรวมถึงเฟซบุ๊กและกูเกิล ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อกฎหมายดังกล่าวเช่นกัน โดยบอกว่า การควบคุมการไหลเวียนของข้อมูลและการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก จะทำให้การเติบโตของธุรกิจในประเทศเวียดนามเองหยุดชะงักและเป็นอุปสรรคกับการลงทุนจากต่างชาติด้วย อย่างไรก็ตาม AIC รับว่าจะปฏิบัติตามกฎหมายของเวียดนาม แต่ก็เรียกร้องให้รัฐบาลเวียดนามมีท่าทีที่ก้าวหน้าและออกกฎเกณฑ์ที่ฉลาดขึ้น เพื่อประโยชน์ของประชาชนและเศรษฐกิจของเวียดนามเองในระยะยาว

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สื่อ Tuoi Tre ของเวียดนามเพิ่งถูกรัฐบาลห้ามนำเสนอข่าวผ่านเว็บไซต์เป็นเวลา 3 เดือน โดยกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสารเวียดนามชี้ว่า Tuoi Tre รายงานข่าวเท็จและเปิดให้มีการแสดงความเห็นไม่เหมาะสมบนเว็บไซต์ พร้อมกันนี้ มีการปรับ Tuoi Tre เป็นเงิน 220 ล้านดองด้วย (ราว 316,000 บาท)

ด้านองค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดนจัดดัชนีเสรีภาพสื่อโลก 2018 เวียดนามอยู่ในอันดับที่ 175 จาก 180 ประเทศ ปัจจุบันมีสื่ออาชีพและสื่อพลเมืองถูกคุมขัง 25 ราย ขณะที่แอมเนสตี้อินเตอร์เนชันแนลประมาณการณ์ว่ามีนักโทษทางความคิดในเวียดนามไม่น้อยกว่า 97 ราย ซึ่งทั้งหมดถูกขังในคุกและจำนวนมากถูกทรมานหรือได้รับการปฏิบัติที่ย่ำแย่

 

ที่มา:

Tags: