“เรามอบแฟนตาซีให้ผู้หญิงผ่านเสื้อผ้ามา 15 ปี ถึงเวลาแล้วที่เราจะนำแฟนตาซีเหล่านี้มาบอกเล่าผ่านขนม ชา และการตกแต่งพื้นที่ ให้ผู้หญิงทั้งหลายได้สัมผัสจริงๆ” นี่คือสิ่งที่ แอ้-มทินา และ เอ๋ย-พิมพ์ดาว สุขะหุต สองสาวเจ้าของแบรนด์สเรทซิส (Sretsis) กล่าวถึง ‘Sretsis Palour’ พื้นที่นัดพบพูดคุยของพวกเธอที่เพิ่งเปิดตัวขึ้น
ไม่ได้กล่าวเกินจริง เพราะพื้นที่ชวนฝันเล็กๆ นี้ต้อนรับผู้คนด้วยพรมสีเขียวลายดอกไม้เล็กๆ เหมือนทุ่งดอกไม้ฤดูร้อน วอลเปเปอร์และเฟอร์นิเจอร์ลวดลายดอกไม้ และสัตว์ลายเอกลักษณ์ที่เคยปรากฏอยู่บนผืนผ้าของสเรทซิส เพดานรูปท้องฟ้าที่ปะปนด้วยเมฆสีขาว ทั้งหมดคือการตกแต่งบรรยากาศที่ทำให้ลืมไปเลยว่า เรากำลังยืนอยู่บนชั้นสองของห้างเซ็นทรัลแอมบาสซี่ ย่านที่รายล้อมด้วยคนเมือง การจราจร และตึกสูงใหญ่
แม้ว่าจะเริ่มต้นจากเสื้อผ้า แต่แอ้และเอ๋ยต่างก็มีความสุขกับเรื่องที่เป็นไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น ขนม อาหาร เครื่องดื่ม หรือข้าวของตกแต่งบ้าน Sretsis Parlour จึงเป็นเหมือนการขยายตัวตนของพวกเธอสู่ไลฟ์สไตล์ที่กว้างขึ้น โดยมาจากไอเดียของทั้งสองสาวที่ต้องการสร้างแหล่งพบปะ คล้ายกับในอดีตที่ทุกบ้านจะมี Parlour หรือห้องรับรองแขก ห้องที่ผู้คนได้แลกเปลี่ยนบทสนทนา เสิร์ฟชาและขนม ใช้ต้อนรับเพื่อนอย่างอบอุ่น และแน่นอนว่า จะต้องตกแต่งด้วยบรรยากาศสไตล์ Sretsis คือ หวาน มีเรื่องราว และเต็มไปด้วยจินตนาการ เหมือนแฟนตาซีที่ปรากฏในสถานที่จริง
ส่วนที่พิเศษไม่น้อยสำหรับที่พบปะแห่งนี้คือชุดน้ำชา แก้ว จานชามต่างๆ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งภายใน ที่ร่วมออกแบบโดย ฟรีด้า กอมลี่ย์ (Frieda Gormley) และ เจวี เอ็ม รอยล์ (Javy M Royle) สามีภรรยาเจ้าของเฮาส์ออฟแฮกนีย์ House of Hackney แบรนด์อินทีเรียร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากประเทศอังกฤษ
แอ้และเอ๋ยเล่าว่าพวกเธอชื่นชอบ เฮาส์ออฟแฮกนีย์มานาน ถึงขึ้นมีเฟอร์นิเจอร์และวอลเปเปอร์ของแบรนด์ดังอยู่ที่บ้าน และใฝ่ฝันมาตลอดว่าจะได้ร่วมงานกับคู่สามีภรรยาคู่นี้
ราวกับโชคชะตาเป็นใจเมื่อฟรีดาและเจวีได้เห็นการตกแต่งห้องนอนของแอ้ผ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง ทั้งคู่พบเฟอร์นิเจอร์ของตัวเองถูกใช้ประดับตกแต่งในรูปแบบที่น่าสนใจและแปลกกว่าที่เคยเห็น ทันทีที่ได้เห็น ทั้งคู่ก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่พวกเขาและสเรทซิสคุยกันรู้เรื่อง ราวกับกำลังพูดภาษาเดียวกันผ่านสไตล์และจินตนาการ จึงนำมาสู่การทำงานร่วมกันของทั้งสองแบรนด์
“สิ่งที่เรามีเหมือนกันคือการใช้จินตนาการ การบอกเล่าเรื่องราว การหยิบสิ่งในอดีตหรือประวัติศาสตร์มาสร้างสรรค์ให้ร่วมสมัย และอยู่ในยุคของปัจจุบัน การทำงานร่วมกันของเราจึงสร้างแรงบันดาลใจให้แก่กันทั้งสองฝ่าย เราคิดว่าทั้งเราและสเรทซิสต่างทำให้โลกสว่างสดใส ด้วยสิ่งที่ทำขึ้นมาจากทักษะและฝีมือ” ฟรีดากล่าว
ปรัชญาที่พวกเขาเชื่อเหมือนกันอีกอย่างคือ ‘more is more’ ปรัชญาด้านตรงกันข้ามกับน้อยคือมากหรือ less is more ที่ทำให้การตกแต่งของ Sretsis Parlour ต่อยอดอย่างไม่จบไม่สิ้น มองไปมุมใดของร้านก็จะพบความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ เช่น วอลเปเปอร์ที่ใช้บุผนัง แก้ว และจานชามที่ตกแต่งด้วยลวดลายจากคอลเลกชั่น Tamed lovers ของ Sretsis หรือชุดน้ำชาเนื้อดีตีพิมพ์ลายพิเศษ
“การที่ลายผ้าอยู่บนเสื้อผ้าหรือแฟชันมันยังมีซีซันของมัน แต่เมื่อลายนี้กลายมาเป็นวอลเปเปอร์หรือเฟอร์นิเจอร์ มันจะเป็นอมตะมากขึ้น เพราะมันไม่ได้อยู่เพียงแค่บนตัวเราแล้ว” เอ๋ยกล่าว และนี่เป็นเหตุผลให้ลายต่างๆ ที่เคยอยู่บนเสื้อผ้าของสเรทซิสมีชีวิตขึ้น และยิ่งไปกว่านั้น ยังกินได้อีกด้วย
จินตนาการที่กินได้ของ Sretsis Parlour มีให้เลือกหลายเมนู ทั้งหมดปรุงขึ้นอย่างพิถีพิถัน และน่าตื่นตาตื่นใจสมกับเป็นสเรทซิส ไม่ว่าจะเป็น Daisy Princess Cake เค้กก้อนกลมสีเขียวมินต์ที่ประดับครีมรูปดอกเดซี่สีขาวด้านบน ตัวครีมรสชาติหอมหวาน เนื้อเค้กที่ซ่อนตัวด้านในให้สัมผัสนุ่มและเข้ากันดีกับรสของแยมผลไม้สดชื่น เค้กที่ตกแต่งด้วยครีมรูปดอกไม้สีสันสดใส รสชาติกลมกล่อม และประดับฟิกเกอรีนหรือตุ๊กตามาสค็อตจากแบรนด์สเรทซิสไว้ด้านบน เช่น ยูนิคอร์น ลูโด้ และกระต่าย หรือเมนูสำหรับคนรักสุขภาพอย่าง Raw Cake ที่ใช้วัตถุดิบปราศจากแป้งและน้ำตาล ปรุงโดยไม่ใช้ความร้อน ส่วนเครื่องดื่ม ที่นี่ก็มีทั้งกาแฟที่ตกแต่งลวดลายด้านบนเป็นรูปยูนิคอร์น ชาเบลนด์ที่มีกลิ่นหอมสดชื่นจาก No.57 และแชมเปญป็อปหรือน้ำผลไม้คั้นสดด้วย
จากบรรยากาศ อาหาร และรายละเอียดทั้งหมดของพื้นที่แห่งนี้ ทำให้เราเริ่มจะเชื่อทีละน้อยแล้วว่า แฟนตาซีถูกเสิร์ฟบนจาน และมอบผ่านการตกแต่งได้จริงๆ และคงจะหน้าตาเหมือนกับที่ Sretsis Parlour แห่งนี้พยายามนำเสนอให้ทุกคน
Fact Box
Sretsis Parlour ตั้งอยู่ที่ชั้นสองข้างแฟล็กชิปสโตร์ของ Sretsis เปิดให้บริการทุกวันเวลา 10.00-20.00 น. ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/SretsisParlour หรือ https://www.instagram.com/sretsis.parlour