24 กุมภาพันธ์ 2022 วลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เปิดปฏิบัติการช็อกโลก ด้วยการนำกองกำลังบุกเข้ายูเครน แสดงความไม่พอใจท่าทีของประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ที่มีความพยายามเข้าร่วม ‘นาโต’ ในเวลานั้น ทุกคนเชื่อว่ากองทัพรัสเซีย ซึ่งมีแสนยานุภาพแข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 ของโลก น่าจะบุกเข้ากรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนได้ภายใน 2 วัน และสุดท้ายก็ต้องเป็นฝ่ายของเซเลนสกี ที่ต้องยอมแพ้ ยอมเจรจา และยอมให้ปูตินฟื้นความยิ่งใหญ่ของอดีตสหภาพโซเวียตให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง
แต่เรื่องจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น แม้กองทัพยูเครนจะด้อยกว่าในเกือบทุกตัวชี้วัด ไม่ว่าจะเป็นจำนวนรถถัง จำนวนยานเกราะ จำนวนเครื่องบินรบ จำนวนกำลังพล และกองกำลังภาคพื้นในการต่อสู้ แต่รัสเซียก็ไม่อาจเข้าใกล้กรุงเคียฟ จนถึงวันนี้ (25 มีนาคม 2022) รัสเซียยึดครองได้เพียงตอนใต้ของยูเครน รอบๆ แคว้นไครเมีย ซึ่งรัสเซียเคยยึดครองได้เมื่อปี 2014 เท่านั้น ทว่าปฏิบัติการยึดเมืองหลวงอย่างเคียฟ และเมืองเอกอื่นๆ ของยูเครน กลับเป็นไปด้วยความล้มเหลว แม้กองทัพฝั่งยูเครนเองก็เริ่มล้าจากการโจมตีอย่างหนักหน่วง และสูญเสียทั้งยุทโธปกรณ์ ทั้งกำลังพลไปจำนวนมากแล้วก็ตาม
สัปดาห์นี้ จอห์น เคอร์บี (John Kirby) โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวชื่นชมยุทธวิธี และกลยุทธ์การรบของยูเครนว่า ‘ฉลาด ว่องไว และสร้างสรรค์’ เป็นอย่างมาก แล้วอะไรคือเบื้องหลังของความสำเร็จเหล่านี้
บทความจาก แฟรงก์ การ์ดเนอร์ (Frank Gardner) นักข่าวด้านการทหารและความมั่นคง ของสำนักข่าวบีบีซี บอกว่า มาจากปัจจัยสำคัญ 5 ประการ
1. แรงจูงใจขั้นสูง
ท่ามกลางแสนยานุภาพที่แตกต่างกันอย่างมาก ก่อนรัสเซียบุกยึดยูเครน ชาวยูเครนต่างก็ตกตะลึงกับสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีรัสเซีย ที่อยู่ดีๆ ก็บอกว่า โดยพื้นฐานแล้วยูเครน เป็นเพียง ‘สิ่งที่ถูกประดิษฐ์ขึ้น’ โดยรัสเซีย นั่นทำให้ชาวยูเครนจำนวนมากฮึกเหิม ลุกขึ้นมาต่อสู้ในฐานะผู้รักษาอธิปไตยของชาติตนเอง
ชาวยูเครนออกมาชุมนุม เพื่อสนับสนุนรัฐบาลและประธานาธิบดี และทำให้ประชาชนมือเปล่า ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ทางการทหารมาก่อน พร้อมใจกันหยิบอาวุธขึ้นปกป้องเมืองของพวกเขา แม้ว่ารัสเซียจะจ่ออาวุธใส่พวกเขาก็ตาม
ทอม โฟล์กส (Tom Foulkes) นายพลของอังกฤษ วิเคราะห์ว่า แรงจูงใจในการสู้เพื่อเอาชีวิตรอด เพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนและครอบครัว ทำให้ความกล้าหาญของคนเหล่านี้ เป็นไปอย่างยอดเยี่ยมและน่าตกใจ ด้วยเหตุนี้ กองกำลังยูเครนจำนวนมากจึงยินดีที่จะไปออกรบในแนวหน้า เพราะรู้ว่าตามเมืองต่างๆ นั้น พลเรือน พร้อมใจกันปกป้องอย่างเข้มแข็งอยู่แล้ว
ในทางตรงกันข้าม ทหารรัสเซียจำนวนมากที่ถูกส่งไปสู้รบในยูเครนเป็นทหารเกณฑ์ที่เพิ่งออกจากโรงเรียน ทั้งหมดต่างงุนงงและสับสน เมื่อพบตัวเองอีกทีอยู่ในเขตสงคราม ทั้งที่คิดแต่ต้นว่าจะออกมาฝึกซ้อม และ ‘ออกกำลังกาย’ เพียงเท่านั้น
บทความจากบีบีซี วิเคราะห์ว่า ทหารราบเหล่านี้ของรัสเซียมีการเตรียมรบเพียงเล็กน้อย หรือไม่มีเลย อีกทั้งยังมีรายงานเรื่องการถูกทอดทิ้ง การขาดแคลนอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการปล้นสะดม
2. การสั่งการ และการควบคุม
เดิมทีเดียว มีการคาดหมายไว้ว่า รัสเซียจะปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์ ทำลายการระบบโทรคมนาคม และการสื่อสารทั้งหมดของยูเครนในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่สุดท้ายสถานการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น ยูเครนยังสามารถรักษาระบบสั่งการและควบคุมกองกำลังทหารของตัวเองได้ในหลายสมรภูมิ แม้ในทางภาคพื้น ในสมรภูมินั้นๆ จะเพลี่ยงพล้ำก็ตาม
นอกจากนี้ รัฐบาลยูเครนยังคงปักหลักอยู่ในเคียฟ และยังปราฏตัวอยู่สม่ำเสมอ รองนายกรัฐมนตรียังใส่เสื้อยืดโดยมีสัญลักษณ์ของรัฐบาลเป็นฉากหลัง
ในทางตรงกันข้าม กองกำลังของรัสเซีย ดูจะไม่มีความเป็น ‘ปึกแผ่น’ จากผู้นำในลักษณะนั้น โดยมีรายงานการประสานงานระหว่างแนวรบเพียงเล็กน้อย ซึ่งส่งผลต่อขวัญกำลังใจของทหารแนวหน้าอย่างมาก ยิ่งมีรายงานการเสียชีวิตของนายพลรัสเซียอย่างน้อย 5 ราย ยิ่งทำให้การสั่งการเป็นไปอย่างยากลำบากมากขึ้น
นอกจากนี้ ในระดับทหารชั้นประทวนของรัสเซีย อย่างสิบโท หรือ นายสิบ (Non-Commissioned Officers หรือ NCO) นั้น ในทางปฏิบัติการ คนเหล่านี้ ไม่อนุญาตให้มีความคิดริเริ่มใดๆ และมักต้องรอคำสั่งจากเบื้องบนเสมอ ศาสตราจารย์ ไมเคิล คลาร์ก (Michael Clarke) ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารจาก คิงส์ คอลเลจ ลอนดอน กล่าวว่า ทหารเหล่านี้ถูกรุมเร้าด้วยการทุจริตและไร้ประสิทธิภาพ รวมถึงไม่ได้มีความเคารพเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของพวกเขาเท่าไรนัก
3. แท็กติกในการรบ
ว่ากันถึงกองกำลังภาคพื้น กองกำลังยูเครนนั้นรบได้ดีกว่ามากในสมรภูมิ และใช้อาวุธได้อย่างทรงประสิทธิภาพ มากกว่าคู่ต่อสู้อย่างรัสเซีย
บทวิเคราะห์ของบีบีซี ระบุว่า ในขณะที่รัสเซียบุกเข้าไปยังยูเครน ด้วยรถหุ้มเกราะที่เชื่องช้า หนัก และมักเคลื่อนเป็นขบวนใกล้กัน ทำให้กองกำลังยูเครนประสบความสำเร็จมากกว่าในการซุ่มโจมตี แล้วรีบหนี หรือใช้จรวดต่อต้านรถถัง รีบยิง และรีบหลบหนีในซอกมุม
นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า ก่อนการบุกรุก ผู้ฝึกสอนนาโต จากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และแคนาดา ได้ใช้เวลายาวนานในยูเครนเพื่อเตรียมกำลังพลก่อนเข้าสู่สงคราม และยังสอนใช้ระบบขีปนาวุธที่ล้ำสมัยอย่างจรวด Javelin หรืออาวุธต่อต้านรถถัง NLAW ที่ออกแบบโดยสวีเดน รวมถึงขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานสติงเกอร์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ศาสตราจารย์ด้านการทหารจากคิงส์คอลเลจ ลอนดอน บอกว่า ‘พวกยูเครนฉลาดกว่าพวกรัสเซียมาก’ และได้ใช้ส่วนผสมในการรบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โดรน ปืนใหญ่ ทหารราบ และสงครามอิเล็กทรอนิกส์ อย่างเต็มพิกัดในการยันกับรัสเซีย
จัสติน ครัมป์ (Justin Crump) นักยุทธศาสตร์ด้านการทหารอีกคนหนึ่ง ซึ่งดูแลบริษัทที่ปรึกษาด้านข่าวกรอง Sibylline กล่าวว่า ชาวยูเครนนั้นเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการค้นหาจุดอ่อนในแผนการของรัสเซีย และโจมตีพวกเขาอย่างแรง โดยยูเครนได้ใช้ยุทธวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำหนดเป้าหมายจุดอ่อนของรัสเซีย เช่น ขบวนส่งเสบียง หรือการใช้ระบบอาวุธนาโต ที่มีความแม่นยำอย่างสูง
ด้วยเหตุนี้ จึงสร้างความเสียหายให้กับกองทัพรัสเซียเป็นอย่างมาก โดยตัวเลขไม่เป็นทางการยังพบว่า มีผู้เสียชีวิตของรัสเซียมากกว่า 7 พันราย หรือเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนกองกำลังที่เสียชีวิตจากการสู้รบในอัฟกานิสถาน ในสงครามระหว่างโซเวียตกับอัฟกานิสถาน ซึ่งกินเวลายาวนานกว่า 10 ปี
ด้าน ทอม โฟล์กส วิเคราะห์ว่า การเด็ดหัว ‘นายพล’ อาจดูเป็นการซุ่มยิงที่จงใจและประสบความสำเร็จอย่างสูงในการทำลายโครงสร้างการบังคับบัญชาของรัสเซียให้เสื่อมลง
4. สงครามข้อมูลข่าวสาร
ในสงครามข้อมูล ยูเครนเป็นฝ่ายชนะในหลายๆ ส่วนของโลก แม้ว่าจะไม่ใช่ในรัสเซีย ที่รัฐบาลเครมลินยังคงควบคุมการเข้าถึงสื่อส่วนใหญ่ก็ตาม
จัสติน ครัมป์ ให้ความชื่นชมประธานาธิบดีเซเลนสกี ที่เป็นผู้รอบรู้ด้านสื่อจากบนลงล่าง ขณะที่ รูธ เดเยอร์มอนด์ (Ruth Deyermond) อาจารย์อาวุโสด้านรัสเซีย ประจำคิงส์คอลเลจ ลอนดอน กล่าวว่า เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลยูเครนประสบความสำเร็จอย่างมากในการควบคุมการเล่าเรื่องเกี่ยวกับสงครามครั้งนี้สำหรับโลกในวงกว้างอย่างแน่นอน
ปัญหาก็คือ หนึ่งเดือนในการดิ้นรนต่อสู้เอาชีวิตรอดขณะนี้ของยูเครนนั้น ยังไม่เพียงพอในการกอบกู้ยูเครน เพื่อยุติสงครามโดยเร็ว และตัวเลขของกองกำลังภาคพื้นที่ยังมีอยู่ของรัสเซีย ก็ยังไม่อาจทำให้ยูเครนชนะในสงครามนี้ได้ง่ายๆ โดยหลังจากนี้ หากการจัดหาระบบอาวุธป้องกันตัวจากตะวันตกมีปัญหา แน่นอนว่ายูเครน คงใช้เวลาหลังจากนี้ในการต่อต้านกองกำลังรัสเซียได้ไม่นานนัก
ที่มา: https://www.bbc.com/news/uk-60867202
ภาพ: Reuters
Tags: Report, รัสเซีย, ยูเครน