ใครจะไปคิดว่า ฉากทะเลทราย การฆาตกรรม และปมในใจของความรักเก่า จะเป็นแก่นเรื่องสำคัญของภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ ทอม ฟอร์ด (Tom Ford) ที่ใช้ชื่อว่า Nocturnal Animals ที่ตัวเขาได้ลงมือดัดแปลงเนื้อเรื่องจากนวนิยายของ ออสติน ไรต์ (Austin Wright) ที่ชื่อ Tony and Susan และเขียนบทขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเอง มาทำเป็นภาพยนตร์แนวทริลเลอร์ด้วยบรรยากาศฟิลม์นัวร์ ผ่านการเล่าเรื่องระหว่างโลกของนวนิยายสลับกับโลกของความจริง ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่องที่น่าสนใจ บวกกับตัวละครและภาพตามสไตล์ของ ทอม ฟอร์ด ที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นขึ้น
“สามีเก่าของฉันมักเรียกฉันว่า สัตว์กลางคืน”
คือประโยคที่ Susan (รับบทโดย เอมี แอดัมส์) พูดออกมาให้เพื่อนร่วมงานของเธอฟัง หลังจากที่เธอกำลังประสบปัญหากับหน้าที่การงานในแวดวงแฟชั่น พร้อมๆ กับวิกฤติของชีวิตคู่ที่กำลังมาถึงทางตัน ทำให้ช่วงเวลาหลายคืนที่ผ่านมา เธอไม่สามารถนอนหลับได้เลย อีกทั้งยังใช้เวลาทุกคืนจมอยู่กับนิยาย ‘Nocturnal Animals’ ที่ Eddie อดีตสามีของเธอ (รับบทโดย เจก จิลเลนฮาล) เป็นคนเขียน แล้วส่งต้นฉบับก่อนตีพิมพ์มาให้เธออ่าน
นิยายเรื่องดังกล่าวเล่าถึงเรื่องราวของ Tony (รับบทโดย เจก จิลเลนฮาล) ชายผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ฆาตกรรม ท่ามกลางความอ้างว้างของทะเลทรายในรัฐเท็กซัส บ้านเกิดของ ทอม ฟอร์ด ที่ถ่ายทอดบรรยากาศของความโหดร้าย ด้วยภาพที่ต่างออกไป เป็นการผสมผสานความดิบเข้ากับความสวยงามของแฟชั่น บวกกับการเล่าเรื่องที่สลับกันไปมาระหว่างโลกของนิยายและโลกของชีวิตจริง ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานที่แตกต่างจากภาพยนตร์อื่นๆ ทั่วไป
ความเป็น sexist ของ ทอม ฟอร์ด ยังคงแฝงไว้ในภาพยนตร์ของเขา ไม่ต่างอะไรกับแคมเปญโฆษณาที่เขาเคยทำให้กับ Gucci หรือ Yves Saint Laurent ที่มักใช้ร่างเปลือยของผู้ชายและผู้หญิงมาถ่ายภาพคู่กับสินค้าของแบรนด์ ราวกับว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นเพียงแค่วัตถุ
แต่อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นดีไซเนอร์แล้วมากำกับภาพยนตร์ของเขา ก็ทำให้ผู้คนมองเขาด้วยมิติที่ลึกลงไป ไม่ต่างอะไรกับ A Single Man ภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาที่กำกับไว้เมื่อปี 2009 ที่ส่งผลให้ โคลิน เฟิร์ท ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายในปีนั้นมาแล้ว นอกจากนี้เขายังแฝงประเด็นของความรักร่วมเพศไว้ในภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่อง แม้ว่าใน Nocturnal Animals จะเป็นเพียงการเอ่ยถึงแค่น้อยนิดก็ตาม
ด้วยมุมมองของภาพยนตร์ที่ถ่ายทำด้วยฟิลม์ 35 มม. การเล่าเรื่องที่ตัดสลับโลกทั้ง 2 ฝั่งไปมาผ่านตัวละครและองค์ประกอบ ที่ไม่ว่าใครได้เห็นก็สามารถรู้ได้ทันทีว่านี่คือผลงานของ ทอม ฟอร์ด ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ Nocturnal Animals ได้รับรางวัล Grand Jury Prize จาก Venice Film Festival เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
และถึงแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเกินความคาดหมายจากคนดู เมื่อเทียบกับแนวภาพยนตร์ดราม่าและสไตล์การเล่าเรื่องในภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา แต่ Nocturnal Animals ก็ถือว่าเป็นอีกมุมหนึ่งของเขาที่ทำให้รู้จักตัวตนอีกด้านหนึ่งของ ทอม ฟอร์ด ที่น่าสนใจอย่างมากเลยทีเดียว