ความโดดเด่นในการรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ของเกาหลีใต้คือการยึดหลักการโปร่งใสใช้เทคโนโลยี จนถึงวันที่ 12 มีนาคม เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อแล้ว 7,869 คน ซึ่งนับเป็นอันดับที่ 4 ของโลกนอกจากจีน อย่างไรก็ตาม การรับมือของรัฐบาลเกาหลีใต้ในภาวะวิกฤตได้รับการยกย่องเป็นอย่างมาก ทั้งการตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและการใช้แนวทางที่เป็นประชาธิปไตย 

ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดในเดือนมกราคม รัฐบาลเกาหลีใต้จัดการสถานการณ์โดยใช้ทั้งความกล้าหาญทางเทคโนโลยีและระบบราชการที่มีไหวพริบ ตามกฎหมายควบคุมและป้องกันโรคติดเชื้อ ประชาชนมีสิทธิที่จะได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรค  คิม กังลิบ ผู้ประสานงานของศูนย์กลางการออกมาตรการความปลอดภัยและภัยพิบัติ เกาหลีใต้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 9 มีนาคมว่า อันดับแรกรัฐบาลต้องเปิดเผยและโปร่งใส ตามด้วยการเคารพความคิดที่สร้างสรรค์และใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเพื่อพัฒนาเครื่องมือตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

นอกจากรัฐบาลจะแถลงข่าววันละ 2 ครั้งแล้ว กฎหมายที่มีอยู่ยังทำให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงข้อมูลในระดับกว้างได้ มีเปิดเผยข้อมูลต่อประชาชนผ่านเว็บไซต์แบบอินเตอร์แอคทีฟ Corona Map เกาหลีใต้ใช้ความก้าวหน้าเทคโนโลยีเข้ามาจัดการปัญหานี้หลายรูปแบบ

ในการตรวจสอบย้อนหลังการเดินทางของผู้ติดเชื้อ ทางการสืบค้นการเดินทางย้อนหลังของผู้ติดเชื้อได้ผ่านข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ทางโทรศัพท์ การใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด จากนั้นเผยแพร่รายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่พวกเขาไป จนสามารถระบุได้ถึงเลขที่นั่งในโรงภาพยนตร์ ข้อมูลเหล่านี้เผยแพร่ต่อประชาชนผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งระบุตำแหน่ง GPS ไว้ด้วย ทำให้คนหลีกเลี่ยงพื้นที่ซึ่งผู้ติดเชื้อไปบ่อยๆ ได้

สำหรับผู้ที่ต้องกักตัวเองที่บ้าน สามารถใช้แอปพลิเคชันช่วยให้ผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงและต้องกักตัวเองอยู่ที่บ้าน พวกเขาสามารถส่งข้อมูลของตัวเองให้กับเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าระวังอยู่ทุกวัน ส่วนชาวต่างชาติก็ต้องดาวน์โหลดแอปและรายงานข้อมูลสุขภาพของตัวเองทุกวันเป็นเวลา 14 วัน

ตรวจหาเชื้อโดยไม่ต้องลงจากรถ หลายเมืองในเกาหลีใต้ เช่น โกยัง ได้จัดศูนย์ตรวจหาเชื้อไวรัสแบบไดร์ฟ ทรูที่ให้เจ้าหน้าที่ใส่ชุดป้องกันตัวเองและเก็บตัวอย่างได้โดยผู้ป่วยไม่ต้องลงจากรถ แค่เปิดหน้าต่าง ทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที

รัฐบาลเปิดโอกาสให้เอกชนและสตาร์ทอัปด้านเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทแก้ไขปัญหา ดังที่เราทราบว่า ยิ่งตรวจเจอเร็วก็ยิ่งลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้มาก เกาหลีใต้สามารถตรวจหาเชื้อไวรัสได้กว้างขวางที่สุดประเทศหนึ่ง โดยมีประชาชนเข้ารับการตรวจแล้ว 200,000 คน และสามารถตรวจหาเชื้อได้สูงสุด 20,000 คนต่อวัน ใช้เวลา 6-24 ชั่วโมง

นี่เป็นผลจากการที่ Seegene บริษัทด้านไบโอเทคโมเลกุล ของเกาหลีใต้ พัฒนาชุดทดสอบหาเชื้อให้เร็วที่สุด บริษัทใช้เอไอเข้ามาช่วยทำให้ลดเวลาการตรวจหาเชื้อ และแทนที่จะใช้คน ก็ใช้เครื่องมือวินิจฉัยตัวอย่างเชื้อที่เก็บมาแทน  ส่วนบริษัทสตาร์ทอัป Ahram Biosystems และ Doknip Biopharm ก็ร่วมมือกันพัฒนาอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อไวรัสได้ภายใน 30 นาที ขณะเดียวกันก็มีบริษัทสตาร์ทอัปที่พัฒนาอุปกรณ์ตัวเชื้อที่ใช้เทคนิค PCR ในราคาถูกและเร็วที่ทำให้การตรวจเชื้อแม่นยำและเชื่อถือได้มากขึ้น 

ส่วนการลดระยะห่างในการเข้าสังคมหรือ (social distancing) ซึ่งเป็นวิธีที่ผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขต่างแนะนำ สตาร์ตอัปเกาหลีใต้ก็ออกซอฟต์แวร์ต่างๆ เพื่อช่วยให้คนทำงานหรือเรียนทางไกลได้ง่ายขึ้น เช่น บริษัท Rsupport เปิดให้ใช้ซอฟต์แวร์ประชุมทางไกลฟรี 3 เดือน ส่วนบริษัทสตาร์ทอัป Classum ก็ให้บริการซอฟต์แวร์เรียนทางไกลสำหรับโรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่างๆ

ติดตามเส้นทาง ทดสอบ และรักษา (Trace, test and treat)’ เป็นหลักใหญ่ที่ทางการยึดถือ ทางการเกาหลีใต้เชื่อว่าวิธีต่างๆ ที่ใช้จะช่วยรักษาชีวิตได้มากมาย ตอนนี้อัตราการเสียชีวิตของเกาหลีใต้ที่มีประชากรกว่า 50 ล้านคน อยู่ที่ 0.7% ขณะที่ WHO ระบุว่าอัตราการเสียชีวิตของโลกอยู่ที่ 3.4% โรงเรียนยังคงปิดทำการ รัฐบาลส่งเสริมให้คนทำงานที่บ้าน งดการรวมตัวของคนหมู่มาก

ที่มา:

https://asiatimes.com/2020/03/south-korea-turns-to-tech-to-take-on-covid-19/

https://edition.cnn.com/2020/03/12/asia/coronavirus-south-korea-testing-intl-hnk/index.html

https://www.bbc.com/news/world-asia-51836898

ภาพ : REUTERS/Kim Kyung-Hoon

 

Tags: , , ,