THE SHOW NOTES

แค่เห็นชื่อเอพิโสดก็รู้สึกปั่นป่วนในท้องน้อยจนรู้สึกอยากอ้วกแล้วเนื่องจากความเครียดลงกระเพาะ ใครไม่เคยเจอไม่รู้หรอกว่ามันเป็นความสุขสันต์ที่แสนทรมานแค่ไหน คือถ้าแอบรักเบาๆ นี่แสนจะสุขนะ แต่ถ้าเพื่อนเริ่มไปรักคนอื่น ไปเป็นแฟนกับคนอื่นนี่คือแทบจะขาดใจตาย คือต่อให้มันโสดๆ แต่ดูไม่ออกจริงๆ ว่ามีใจให้เราหรือเปล่า นี่ก็ทรมานใจไปอีกแบบ

จะสารภาพดีหรือเปล่า และถ้าสารภาพแล้วไม่ได้แฟน แถมยังเสียเพื่อนล่ะ

Disclaimer: เราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใกล้เคียงแม้สักสิบเปอร์เซ็นต์ของพี่อ้อยพี่ฉอด เราเพียงช่วยหาประโยคที่เข้าท่ามาให้เลือกใช้กันตามอัธยาศัย อย่างไรก็ต้องอาศัยการประเมินสถานการณ์ส่วนตัวของใครของมันอยู่ดีนะ

02:10

เมื่อไร ที่ไหน อย่างไร

ไม่บอกไม่ได้แล้ว

  • บางครั้งเป็นไปได้ว่าเราจัดการความรู้สึกของตัวเองได้แล้ว เช่น แยกแยะออกว่ามันไม่ใช่รักที่ต้องสารภาพ แต่เป็นรักแบบ crush คือ แอบปิ๊งสนุกๆ จึงตัดสินใจเก็บเขาไว้เป็นแค่ eye candy คือเอาไว้แอบมองเล่นๆ ไปวันๆ อารมณ์แอบชอบรุ่นพี่ แบบนี้ถ้าไปสารภาพแล้วแห้ว อาจเกิดความอิหลักอิเหลื่อตามมา ความสนุกของการแอบมองจะพังไปทันที
  • บางครั้งชั่งแล้วว่า ไม่บอกดีกว่า และเมื่อตัดใจได้แล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้น แบบนี้ก็ถือว่าดูแลความรู้สึกตัวเองได้
  • แต่ถ้ามันกระวนกระวาย ไม่มีความสุขเลยจากการเก็บความรู้สึกนี้ไว้ในใจ เรียนไม่รู้เรื่อง การงานเสียหายเพราะไร้ซึ่งสมาธิ แบบนี้ไม่บอกคงไม่ได้ อกจะแตก ตายตาไม่หลับ ขอรู้ว่าผิดหวังยังดีกว่าต้องคาใจไปทั้งชีวิต ขั้นตอนหนึ่งสองสามที่เราต้องคำนึงถึงคืออะไรบ้าง
  • โบเสนอว่า ถ้าจะต้องบอก ช่วงเวลาที่เหมาะน่าจะเป็น ก่อนหยุดยาว เพราะถ้าหากแป้กขึ้นมาจะได้ถือโอกาสลี้ภัยไปหลบเลียแผลใจโดยไม่ต้องลางานหรือต้องมาแอ๊บลาป่วยให้เสียการเรียนเปล่าๆ แต่ถ้าสมหวังขึ้นมา ก็จะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนไปเลย

 

07:18

อ้อมๆ

หยั่งเชิง

  • เฟี้ยตคิดว่า หากเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก อาจเริ่มต้นด้วยคำถาม ‘หยั่งเชิง’ ประมาณว่า “Look at that couple. They used to be friends, and now they’re dating. What do you think about that? Do you think that would even work?” เธอๆ ดูสองคนนั่นสิ เป็นเพื่อนกันมาก่อน แล้วตอนนี้มาเป็นแฟนกันซะแล้ว เธอว่าเขาจะไปกันรอดไหมอะ “What do you think about friends becoming more?” เพื่อนที่กลายมาเป็นแฟนนี่มันดีหรือไม่ดีกันแน่นะ อะไรแบบนี้ ชวนถกเถียงโต้วาทีเบาๆ เป็นการเช็คทัศนคติ
  • แต่ระวังเพื่อนประเภทยิงตรงที่รู้ไต๋เราแล้วสวนกลับมาว่า “Are you talking about us?” นี่กำลังพูดถึงเรื่องของเราอยู่ปะเนี่ย โดยที่มันอาจจะ (ก) พูดอำเราเล่นโดยไม่ได้คิดอะไร อันนี้ถ้าเราปั้นหน้าปั้นเสียงรับมุกไม่ทันล่ะก็โป๊ะแตกนะฮะ (ข) มันแอบมีใจเล็กๆ อันนี้ถ้าเราไม่ทันรับมุก แล้วออกอาการลุกลี้ลุกลน ไปไม่เป็น ก็อาจจะออกมาน่าเอ็นดูในสายตาเพื่อนไป แต่แกจะโชคดีขนาดนรี้เชียวหรือ ฮึ่ (มองโลกในแง่ร้ายด้วยนิสัยขี้อิจฉา กลัวคนอื่นได้ดี)
  • เฟี้ยตเสนอว่า ถ้าเป็นเพื่อนสนิทแนวหุยฮา ก็ให้ลองตลกแดกไป ตอดบ่อยๆ หยอดเรื่อยๆ จนเพื่อนเริ่มเก็ต คือถ้ามันเก็ตแล้วมีใจก็จะได้ส่งสัญญาณกลับว่า เล่นด้วยจ้ะ ในขณะเดียวกัน ถ้ามันไม่มีใจ เราก็น่าจะเห็นสัญญาณที่ชัดขึ้นเหมือนกันว่า มึงจะบ้าเหรอ เพื่อนกันนาเว้ย (ล้องห้าย)

 

11:21

เริ่มที่การเกริ่น ติดตามด้วยการสารภาพ

อะไรบ้างที่พูดได้

  • ประโยคในการเริ่มสารภาพ ก็เกริ่นกันได้หลากหลาย เช่น

– “Hey, I have something to tell you.” เธอ เรามีอะไรจะบอกล่ะ (ที่จริงเกริ่นขึ้นมาแบบนี้ปั๊บ บางคนก็เดาเรื่องได้แล้วนะ)
– “I hope what I’m about to tell you won’t affect our friendship.” ก่อนอื่น เราหวังว่าที่กำลังจะบอกนี่จะไม่กระเทือนคยามเป็นเพื่อนของเราสองคนนะ (ยิ่งชัดเข้าไปใหญ่ แน่ใจได้เลยว่า ไอ้นี่มันแอบชอบกูแน่ๆ)
– “I’m fine either way. And I want you to know that whatever the outcome is I want us to stay friends the way we are right now. I hope nothing will change.” สำหรับเรา ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร เราก็โอเคนะ แล้วเราก็หวังว่าเราสองคนจะยังเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป (ชัวร์หนักเข้าไปอีก)
– “I’m not sure if you notice that the way I feel about you is different and it’s not the way friends feel to each other.” เราไม่แน่ใจว่าเธอสังเกตหรือเปล่าว่า หลังๆ ความรู้สึกที่เรามีกับเธอมันเปลี่ยนไป แล้วมันก้ไม่ใช่ความรู้สึกแบบเพื่อนแล้วอะ (เพื่อนคงไม่พูดต่อว่า “แต่มันเป็นความรู้สึกแบบศัตรู” นะ)

  • แล้วก็มาถึงไฮไลต์ นั่นคือ จะสารภาพด้วยประโยคว่าอะไรดี

– “I kinda have a crush on you for a long time. I was wondering if you feel the same way. And like I said, if you don’t it’s totally fine.” เราแอบชอบเธอมานานแล้ว เราอยากรู้ว่าเธอรู้สึกเหมือนเราไหม แล้วก็อย่างที่บอกคือ ถ้าไม่ ก็ไม่เป็นไรนะ
– “I just have to know, or else it would be in my head all the time and I can’t rest. So, I just need to know” คือที่ตัดสินใจบอก และถามแบบนี้ ก็เพราะว่ามันวนอยู่ในหัวตลอด ไม่ต้องหลับต้องนอนกันพอดี รู้กันไปจะได้จบๆ
– “I just wanna know so that I can move on from this feelings if there’s nothing going on here. Maybe it’s my confusion.” เราจะได้เอาตัวเองออกมาจากความรู้สึกสับสนนี้ แล้วก้าวต่อไปเสียที

  • เฟี้ยตแนะนำอย่างนี้

– “Hey, I need a favor. Something has been bothering me recently. I think I’m starting to like you more than friends. And I wouldn’t mind if you slap me back into reality every now and then until I get sober.” บอกชิลล์ๆ ว่า เออ นี่ เราอยากให้เธอช่วยอะไรหน่อย หลังๆ มันมีความรู้สึกรบกวนจิตใจแปลกๆ เพราะเรารู้สึกชอบเธอเกินเพื่อนไปแล้วว่ะ ช่วยตบเรียกสติทีสิ

 

13:54

เมื่อถูกปฏิเสธ พูดอย่างไรให้จบสวย

แน่นอนว่า เขาไม่รักตอบ…

  • ถ้าเพื่อนไม่ได้รู้สึกอย่างเดียวกัน จงเตรียมตัวเตรียมใจรับปฏิกริยาต่อไปนี้

– มันจะหัวเราะใส่หน้าเราไปเลย เพราะคิดว่าเราเล่นตลก (และเราอาจจะหัวเราะไปกับมันเพื่อกลบเกลื่อน แต่ในใจคือร้องไห้หนักมาก)
– หัวเราะเหมือนกัน ไม่ได้ขำ แต่แก้เก้อ ก็จะออกมาในแนว อ่า แหะๆๆ
– อึ้ง เงียบ พูดอะไรกลับมาไม่ถูก

  • บิ๊กบุญมีฮาวทูสำหรับคนขี้ขลาดจากประสบการณ์จริงที่ทำมาแล้ว

– วันนั้นเอาจริงๆ คือไม่ได้ตั้งใจจะสารภาพแต่อย่างใด แต่ด้วยความที่นอนไม่หลับมาหลายวันมาก สุขภาพทรุดโทรม หมกมุ่นจนเสียการเสียงาน ในวันนั้นที่ขับรถไปส่งเพื่อนที่บ้าน จึงตัดสินใจจะบอกขึ้นมาอย่างกะทันหัน
– การสารภาพก่อนเขาลงจากรถไปนี่ก็ดีนะ แนะนำเลย เพราะสมมติถ้าแป้กขึ้นมาก็จะขับรถจากไปได้ทันที และยังสะดวกต่อการเปิดเพลงเศร้าแล้วร้องตามพร้อมร้องไห้โดยลำพังอีกด้วย
– วิถีคนขี้ขลาดนี่ง่ายนิดเดียว นั่นคือให้ใช้วิธีเกริ่น แต่ไม่ต้องพูดต่อ แล้วให้พูดคำว่า “You know…” (“อือ นั่นแหละ”) ไปเรื่อยๆ จนเพื่อนเก็ต
– “Well, I have something I feel like I really need to let you know. It’s really awkward for me to say, and at this point I’m sure you have some idea. Yes. it’s what you think.” เออ มีเรื่องจะบอก มันพูดยากมากเลย แต่เราว่าเธอก็น่าจะเริ่มรู้แล้ว ซึ่งก็ อือ นั่นแหละ อย่างที่คิดนั่นล่ะ ถูกแล้ว (ขี้ขลาดขนาดที่ไม่กล้าพูดคำว่า รัก หรือ ชอบ หรือ แอบชอบ หรือไม่กล้าแม้กระทั่งถามว่า ‘คิดกับเรายังไง’)
– ลองพูดแบบนี้ก็ได้ “I have something to tell you. It’s the kind of feeling that friend shouldn’t have towards another friend. Please don’t make me say it. I know you know by now what I want to say.”
– พูดออกตัวไว้ก่อนว่า แม่งมันเป็นความคิดที่ห่วยมาก เราไม่อยากรู้สึกแบบนี้เลย แต่เราบังคับไม่ได้ว่ะ “I know it’s probably the worst idea ever. Trust me I don’t wanna feel this way at all, but I can’t help it.”

  • โบเคยโดยเพื่อนรุ่นน้องสารภาพด้วยประโยคว่า “พี่ ผมรู้สึกกับพี่ไม่เหมือนเดิมว่ะ”
  • โบตอบไปว่า “I don’t really date younger guys and I see you as my little brother. But thank you for having the feelings for me. It’s very sweet of you.” พี่รู้สึกกับเราเหมือนน้องชายมากกว่าอะ แต่ก็ขอบคุณที่ชอบพี่นะ… ซึ่ง โอเค จริงใจ แต่คนฟังก็จุกๆ นะ
  • วิธีการพูดเมื่อโดนปฏิเสธ จำของรุ่นน้องของโบคนนี้ไว้ใช้ก็ได้นะ นั่นคือเขาบอกว่า “ไม่เป็นไรพี่ ผมก็แค่อยากบอก”
  • โบเป็นคนที่โดนเด็กสารภาพรักบ่อยมาก อีกคนพูดว่า “พี่ ผมอยู่ใกล้พี่แล้วผมรู้สึกแปลกๆ อะ ผมรู้สึกดีกับพี่มากเลยนะ”
  • เฟี้ยตแนะนำว่า เมื่อถูกปฏิเสธ ให้พูดสั้นๆ ว่า “Thank you. Now I’m relieved.” ขอบคุณนะ ตอนนี้โล่งใจแล้ว จะได้ไปเกิดใหม่เสียที
  • แต่ถ้ามันเจ็บ ไม่ต้องแอ๊บแกร่งก็ได้ บอกไปเลยว่า อูย เจ็บ “Wow, this hurts. But you know what, I’ll be okay.” แต่เดี๋ยวก็หาย ขอเวลาไปเยียวยานิดนึงนะ แล้วจะกลับมาเป็นปกติเร็วๆ นี้ ไม่ต้องห่วง “I might need a little time away, but I’ll be back.”
  • “Thank you for telling me, I really appreciate that. I can totally move on from this. But I might need a little bit of time. Please understand me. I’m not trying to avoid you. But I just need to get my head straight. After I’m okay I’ll let you know. I’ll call you and we can hang out. Everything will go back to the same way.” อาจจะดูเหมือนเราหลบหน้า แต่เปล่านะ เราแค่ต้องใช้เวลาจัดการกับความรู้สึกตัวเองสักหน่อย โอเคเมื่อไหร่เราจะโทรหา แล้วทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิมนะ
  • “By they way I’m going to take a little break. I’ll be in Japan for 5 days. Maybe you won’t be able to reach me. But don’t worry. I’m not gonna go kill myself or anything.” เออ เดี๋ยวเราว่าจะลาพักร้อนไปญี่ปุ่นซักห้าวันนะ ถ้าบางช่วงติดต่อไม่ได้ก็ไม่ต้องเป็นห่วง ไปเที่ยว ไม่ได้ไปฆ่าตัวตายหรืออะไร
  • หรือถ้ามีความสามารถด้านการแสดงที่สตรองพอ จะทำอย่างที่สามีของน้องโบแนะนำมาก็ได้ นั่นคือ เมื่อเพื่อนพูดปฏิเสธมาก็ให้สวนกลับไปว่า “ฮ่าฮ่า กูหลอกมึงได้แล้ว” แค่ระวังอย่าให้น้ำตาไหลอาบแก้มขณะที่กำลังแสดงฉากนี้ก็แล้วกัน
  • สรุป ไม่มีใครบอกได้หรอกว่า แอบรักเพื่อนครั้งนี้ควรสารภาพหรือไม่ มันอยู่ที่คุณนั่นเอง ประเด็นที่อยากบอกคือ อย่าไปมองการสารภาพแล้วแป้กว่าเป็นเรื่องล้มเหลว แต่ให้มองว่าเก็บมันไว้เป็นเรื่องเล่า เวลาผ่านไปนานๆ เดี๋ยวมันก็กลายเป็นเรื่องตลกเองแหละ
  • การสารภาพรักไม่สำเร็จอาจเป็นเรื่องที่ดีก็ได้นะ เพื่อนที่ดีบางคนไม่ได้จะสามารถเป็นคนรักที่ดีด้วยเสมอไป เก็บมันไว้เป็นเพื่อนแบบนั้นล่ะดีแล้ว
Tags: , , , , , , , , , , , ,