หนังเกี่ยวกับอะไร

‘จอห์น วิค’ (คีอานู รีฟส์) สุดยอดนักฆ่าที่ต้องการอำลาจากวงการนี้เสียที แต่เมื่อ ‘ซานติโน’ (ริกคาร์โด สกามาร์ซิโอ) บังคับให้เขาต้องใช้หนี้ด้วยการสังหาร ‘จิอันนา’ (คลอเดีย เจอรินี) เขาจึงต้องหวนคืนวงการอีกครั้งอย่างไม่เต็มใจ

สิ่งที่ควรรู้ก่อนไปดูหนัง

ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น (Laurence Fishburne) ผู้รับบทมอร์เฟียสจาก The Matrix ได้กลับมาร่วมงานกับ คีอานู รีฟส์ อีกครั้งในบท ‘เดอะ บาวเวอรี่ คิง’ (Bowery King) นักฆ่าลึกลับที่ปกครองเครือข่ายนักฆ่าไร้บ้านที่แฝงตัวอยู่ตามท้องถนนในนิวยอร์ก

นอกจากนี้ คอมมอน (Common) ผู้รับบทแคสเซียนในภาคนี้ก็เคยแสดงเป็นคู่ปรับกับ คีอานู รีฟส์ ในหนังตำรวจเรื่อง Street Kings มาแล้ว

สิ่งที่ชอบที่สุดจากหนัง

1. อย่างแรกที่ต้องชมเลยคือการเซตโลก จอห์น วิค ด้วยธีมอันแข็งแรง เรารู้มาอยู่แล้วว่าผู้กำกับอยากสร้างโลกนักฆ่าในหนังให้อารมณ์ประมาณหนังแนวคาวบอย หรือซามูไรสมัยก่อน ที่แม้จะเป็นอริกันแต่ก็เคารพกัน และอยู่ร่วมโลกภายใต้กฎเดียวกัน ซึ่งหากใครฝ่าฝืนกฎจะถูกตั้งค่าหัว (ห้ามสู้กันในคอนติเนนทัล, ต้องใช้หนี้สัญญาเลือดของตัวเอง)

ความดีอีกอย่างของ จอห์น วิค ภาคนี้คือการพยายามเซตนิวยอร์กให้กลายเป็นเมืองที่ไม่ว่าใครก็อาจจะเป็นนักฆ่าได้หมด คนขับรถแท็กซี่, คนไร้บ้าน, นักเล่นดนตรีเปิดหมวก, คนเก็บขยะ ช่วงครึ่งแรกของหนังจึงคุ้มค่าที่จะหมดเวลาไปกับการเล่าเรื่องให้แข็งแรงโดยไม่มีฉากแอ็กชัน (นอกจากฉากเปิดเรื่อง)

2. จอห์น วิค โหมดต่อสู้ระยะประชิด vs. ลูกกะจ๊อก โหมดนี้สนุกหน่อยตรงที่ฉากแอ็กชันเขาทำเป็น คีอานู รีฟส์ vs. สตันต์แมน แบบแทบไม่ใช้การตัดต่อช่วย ภาพที่เห็นจึงดูสมจริง เป็นส่วนผสมระหว่างความดิบไม่ประดิษฐ์ท่ากับความสวยงามของสตันต์โชว์แบบพวก The Raid ประมาณนั้น โหมดนี้พระเอกจะเก่งกว่าตัวร้ายประมาณหนึ่ง แต่ก็ถือว่าสะบักสะบอมเอาเรื่องอยู่ ที่ชอบอีกอย่างคือ จอห์น วิคขี้โกงดี บางทีรู้ว่าสู้มือเปล่าไม่ไหวก็หยิบปืนมายิงแม่งเลย สมกับเป็นตัวละครสไตล์ bad ass ซึ่งทำให้เห็นว่าโลกของหนังเรื่องนี้คือการต้องหยุดศัตรูให้เร็วที่สุดโดยไม่สนวิธีการ ดังนั้นพวกฉากแอ็กชันจึงไม่ยืดเยื้อ ยิง headshot ปังๆ! แล้วไปต่อ (ฉากน่าจดจำคือ โชว์ฆ่าคนด้วยดินสอ, สู้กับแก๊งแท็กซี่)

3. จอห์น วิค vs. บอส ภาคนี้มีบอสใหญ่สองคนคือ ‘แคสเซียน’ กับ ‘อาเรส’ สิ่งที่ทำให้ชอบคือความสูสีกินกันไม่ลง ถึงจะรู้อยู่แล้วว่ายังไง จอห์น วิค ก็ต้องชนะเพราะเขาเป็นพระเอก แต่เวลาเจอคนเก่งทัดเทียมกันมันก็ดูสนุกตรงที่ได้ลุ้นว่าจะเอาไม้ไหนมาปราบ ซึ่งเกือบทุกฉากที่คีอานูสู้กับคอมมอนนั้นสุดยอดมาก ชอบที่สองคนนี้เหลี่ยมมวยคู่คี่กันจึงต้องพยายามแก้ทางกันตลอดเวลา

4. งานกำกับภาพโดดเด่นขึ้นกว่าเดิม ฉากเปิดเรื่องที่ จอห์น วิค ขับรถไล่ล่ามอเตอร์ไซค์นี่ก็มุมกล้องเด็ด ส่วนฉากต่อสู้ทั้งหลายก็ดีตรงที่ไม่ใช้เทคนิคกล้องสั่นเพิ่มความสมจริง แค่นั่งดูภาพเคลื่อนไหวตั้งกล้องนิ่งๆ ถ่ายการต่อสู้สวยๆ มันก็โอเคไปอีกแบบ ที่สำคัญคือไม่คิดว่าจะมีใครเอา เขาวงกตกระจก (mirror maze) มาใช้ในหนังแอ็กชันแบบนี้ เพราะที่เคยเห็นเด่นๆ ก็ต้องย้อนไปในหนัง The Circus (1928) และ The Lady from Shanghai(1947)

สิ่งที่ไม่ชอบที่สุดจากหนัง

เวลาที่ จอห์น วิค ถือปืน vs. ลูกกะจ๊อก ถึงแม้จะรัว Gun Fu ไม่ยั้ง แต่ท่วงท่าของ คีอานู รีฟส์ ก็ดูเป็นมืออาชีพสมกับที่ฝึกซ้อมมาอย่างดี มีความคล่องแคล่วว่องไว ดูเชื่อว่าแม่นยำจริง แต่ปัญหาสำหรับเราคือรู้สึกไม่ต่างอะไรจากฉากยิงปืนในภาคแรก

นึกถึงเกม Counter-Strike เวอร์ชัน คีอานู รีฟส์ ฉายเดี่ยวปราบคู่ต่อสู้เปิดโหมด easy ตัวร้ายชอบเดินพรวดพราดเข้ามาเป็นเป้าให้พระเอกยิง แถมชอบมาทีละคนสองคนด้วย แล้วบางทีก็งงว่าจะวิ่งเข้ามาตายระยะประชิดอะไรขนาดนั้น ถึงจะเชื่อว่า คีอานู รีฟส์ เก่งจริง ไวจริง แม่นจริง ขนาดเก็บตัวร้ายได้หมด แต่มันก็รู้สึกกังขาตลอดเวลาว่าบทหนังช่วยไว้ต่างหาก

เราเรียนรู้อะไรจากหนัง

เราคงไม่อาจปลดเปลื้องพันธะใดๆ ออกจากตัวเองได้ หากยังคงสร้างผลกระทบต่อคนอื่นเป็นลูกโซ่ ในหนัง จอห์น วิค พยายามจะออกจากวงการนักฆ่าไปใช้ชีวิตอย่างสุขสงบ แต่เขาถูกทวงหนี้บุญคุณในอดีต ซึ่งทำให้ต้องกลับมารับภารกิจสังหารอีกครั้ง ถึงแม้ในใจเขาจะคิดว่าก็แค่ฆ่าๆ ให้จบไปเป็นครั้งสุดท้าย แต่เขาคงไม่ทันตระหนักถึงว่าคนใกล้ชิดของเหยื่อที่เขาสังหารก็ต้องออกตามล่าเพื่อแก้แค้น และนั่นทำให้พันธะดังกล่าวยังคงติดตัว จอห์น วิค ไปไม่มีที่สิ้นสุด

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากหนัง

คีอานู รีฟส์ ใช้เวลาทั้งหมด 4 เดือน เพื่อฝึกยูยิตสู (Jujutsu) สำหรับการต่อสู้ในหนัง และเผื่อใครยังไม่รู้ สมัยThe Matrix คีอานู รีฟส์ ก็เคยฝึกกังฟูมาทุกรูปแบบ ตอนเล่น 47 Ronin ก็ฝึกฟันดาบแบบซามูไร พอมาเล่น John Wick เขาก็เรียนการใช้ปืน 3 กระบอก และยังฝึกขับรถแบบสตันต์โชว์ให้เจ๋งยิ่งกว่าเดิมอีก

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

100% ว่านี่คือหนังสำหรับคนนิยมหนังแอ็กชัน ยิ่งถ้าชอบ John Wick ภาคแรกอยู่แล้วก็ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะต้องพลาดภาคนี้

ควรชวนใครไปดู

เคยมีคนบอกว่า คีอานู รีฟส์ เป็น ‘action star’ ที่มีเอกลักษณ์พิเศษคือเข้าถึงได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง ดังนั้นถ้าจะชวนใครสักคนไปดู John Wick: Chapter 2 ก็แนะนำให้ลองชวนสาวๆ กันได้เลย หนังสนุกและเชื่อว่าเป็นแนวแอ็กชันที่ผู้หญิงน่าจะอินได้ด้วย

ความคุ้มค่าต่อเงินที่เสียไป

สัปดาห์นี้มีหนังใหม่เข้าหลายเรื่อง ซึ่งดีอย่างหนึ่งตรงที่ว่าแนวของหนังนั้นหลากหลายแตกต่างกันออกไป ซึ่งถ้าคุณเป็นคอหนังแอ็กชันแล้วละก็ ตัวเลือกที่เหมาะสมก็หนีไม่พ้น John Wick: Chapter 2 การได้ดูฉากแอ็กชันแบบ non-stop น่าจะเป็นอะไรที่คุ้มค่าตั๋วกันอย่างแน่นอน

ขอ 3 พยางค์จากหนังเรื่องนี้

เดือด ได้ ใจ

Tags: , ,