เทนนิส ‘ออสเตรเลียน โอเพน 2017’ กลายเป็น ‘ความทรงจำ’ ที่แสนดีของแฟนๆทั่วโลกอย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อนครับ

เราได้คู่ชิงที่ดีที่สุดทั้งในประเภทหญิงเดี่ยว และชายเดี่ยว กับการพบกันของ ‘พี่น้องวิลเลียมส์’ ในประเภทหญิง และการกลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้งของคู่ปรับตลอดกาล ‘เฟด-นาดาล’

ที่พูดว่าดีที่สุดนั้นเป็นเพราะการกลับมาพบกันของทั้งสองคู่นั้นเป็นการพบกันที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดหมาย

มันคล้ายจะเลยวันเวลาของพวกเขาไปแล้ว

การพบกันนั้นจึงมีคุณค่าอย่างมาก เพราะสำหรับนักกีฬาที่อายุมากขึ้น การจะกลับมาสู่จุดสูงสุดอีกครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยครับ

พละกำลังนั้นมักจะเสื่อมถอยพร้อมๆ กับกำลังใจที่ลดน้อยลงทุกที

เพียงแต่ในการกลับมาพบกันครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นคู่พี่น้อง เซเรนา-วีนัส วิลเลียมส์ หรือ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และราฟาเอล นาดาล สิ่งที่น่าประทับใจคือพวกเขาต่างใช้คู่แข่งเป็นแรงบันดาลใจของกันและกัน

เป็นสายสัมพันธ์ระหว่างกันที่แสนพิเศษ

สายสัมพันธ์ที่ร้อนแรงแต่งดงาม

ฉันอยากจะใช้โอกาสนี้ในการแสดงความยินดีกับวีนัส
เธอเป็นคนที่มหัศจรรย์มาก ฉันไม่มีทางที่จะคว้าแชมป์ (แกรนด์สแลม)​ ได้ถึง 23 ครั้งแน่นอนถ้าฉันไม่มีเธอ
ไม่มีทางที่ฉันจะคว้ามันมาได้สักครั้งแน่ถ้าฉันไม่มีเธอ

 

เธอคือแรงบันดาลใจของฉัน

ถึงแม้ว่า วีนัส วิลเลียมส์ เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 7 สมัย จะไม่สามารถต้านทานความเก่งกาจของ เซเรนา น้องสาวผู้มีสถานะและฝีไม้ลายมือที่เหนือกว่าในนัดชิงชนะเลิศของ ออสเตรเลียน โอเพน ได้ในสนาม และทุกอย่างจบลงในระยะเวลาอันรวดเร็วเพียงแค่ 1 ชั่วโมง กับอีก 21 นาที ด้วยสกอร์ 6-4, 6-4 ทั้งสองเซต

แต่ดูเหมือนผลการแข่งขันมันจะไม่สำคัญสำหรับพวกเธอเลย

ภาพของวีนัสและเซเรนาที่ยืนเคียงกันและต่างกล่าวชื่นชมต่อกัน และกล่าวขอบคุณอีกฝ่ายในพิธีการมอบถ้วยรางวัลต่างหากที่ทำให้หัวใจของแฟนกีฬาทั้งโลกพองโต

“เซเรนา วิลเลียมส์ เธอคือน้องสาวคนเล็กของฉัน” วีนัสเป็นผู้กล่าวก่อนในฐานะรองแชมป์ “ฉันมายืนตรงนี้เคียงข้างเธอ ถึงจะมีบางครั้งที่ฉันแพ้เธอก็ตาม แต่ฉันก็ภูมิใจในตัวเธออย่างมาก เธอคือคนที่มีความหมายที่สุดในชีวิตของฉัน”

ก่อนที่จะถึงคิวเซเรนา เจ้าของแชมป์ออสเตรเลียน โอเพน 2017 – แชมป์รายการนี้สมัยที่ 7 ของเธอ และเป็นแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 23 ในชีวิต พร้อมทั้งยังเป็นการทวงตำแหน่งมือหนึ่งของโลกกลับมา – ได้จับไมค์บ้าง

“ฉันอยากจะใช้โอกาสนี้ในการแสดงความยินดีกับวีนัส เธอเป็นคนที่มหัศจรรย์มาก ฉันไม่มีทางที่จะคว้าแชมป์ (แกรนด์สแลม)​ ได้ถึง 23 ครั้งแน่นอนถ้าฉันไม่มีเธอ  ไม่มีทางที่ฉันจะคว้ามันมาได้สักครั้งแน่ถ้าฉันไม่มีเธอ และไม่มีทางที่ฉันจะประสบความสำเร็จอะไรได้สักอย่างถ้าฉันไม่มีเธอ เธอคือเหตุผลเดียวที่ทำให้พี่น้องวิลเลียมส์นั้นมีอยู่”

คำพูดของเซเรนานั้นไม่ได้เกินเลยจากความจริง เพราะการกลับมาของวีนัสในครั้งนี้เป็นเรื่องที่อยู่เหนือจินตนาการของคนจำนวนมาก

ในวัย 36 ปี วิลเลียมส์ผู้พี่เดินเลยจากจุดสูงสุดของชีวิตมาไกลแล้ว เธอได้แชมป์ระดับแกรนด์สแลมครั้งสุดท้ายเมื่อ 9 ปีที่แล้ว และผ่านการเล่นเทนนิสรายการระดับเมเจอร์มาแล้วกว่า 73 ครั้ง

ไม่ผิดหากใครจะคิดว่าเวลาในการเล่นเทนนิสอาชีพของเธอเหลือไม่มากแล้ว

แต่วีนัส ผู้ซึ่งเคยต่อสู้กับโรคร้าย Sjögren’s syndrome ที่สร้างความเจ็บปวดที่ข้อต่อและทำให้เหน็ดเหนื่อยง่าย สามารถสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนด้วยการผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้อีกครั้ง

ส่วนสำคัญคือการที่เธอมีน้องสาวอย่างเซเรนาเป็นคู่แข่ง “เวลาที่ฉันได้ลงเล่นในคอร์ตกับเธอ ฉันคิดว่าฉันได้เจอกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุดในเกมเทนนิส” วีนัสกล่าวหลังเอาชนะ โคโค แวนเดอเวจห์ ในรอบรองชนะเลิศฯ

และการกลับมาของเธอก็มีส่วนทำให้เซเรนาที่อายุน้อยกว่า 1 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ทำท่าคล้ายว่าจะพ้นจากจุดสูงสุดของชีวิตแล้วเช่นกัน ได้กลับมาในเส้นทางตัวเองด้วย

“ฉันไม่เคยหมดหวังที่เราทั้งคู่จะได้กลับมาพบกันอีกครั้งในรอบชิงชนะ

ต่างคนต่างเติมไฟฝันให้แก่กันและกัน

ไม่ต่างอะไรจากในวัยเด็กที่ทั้งคู่ลงเล่นเทนนิสพร้อมๆ กัน โดยมีพ่อ ริชาร์ด วิลเลียมส์ เป็นผู้ฝึกสอน ซึ่งทำให้สายเลือดวิลเลียมส์นั้นผูกพันถึงจิตวิญญาณ

การกลับมาพบกันครั้งนี้ทำให้ผู้คนได้หวนคิดถึงภาพวันเก่าๆ คิดถึงรอบชิงชนะเลิศในปี 1998 ที่พี่น้องวิลเลียมส์ได้พบกันเองครั้งแรก และมันจบลงด้วยชัยชนะของ วีนัส ก่อนที่ทั้งคู่จะได้พบกันอีกหลายต่อหลายครั้ง

สำหรับในนัดชิงชนะเลิศครั้งที่ 9 ของพี่น้องวิลเลียมส์ในศึกแกรนด์สแลม

ไม่ว่าใครชนะ ผู้ชนะก็คือ ‘วิลเลียมส์’ อยู่ดี

เฟเดอเรอร์ ยอดนักเทนนิสชาวสวิตเซอร์แลนด์ เป็นหนึ่งในนักเทนนิสระดับตำนานที่ยังโลดแล่นในสนามอยู่
กับตำแหน่งแชมป์เมเจอร์ 17 สมัย
ขณะที่นาดาลคือคู่แข่งเพียงคนเดียวที่สามารถยืนหยัดต่อสู้กับเขาได้อย่างสนุกสูสีที่สุด
และเป็นเจ้าของแกรนด์สแลมถึง 14 รายการ

คู่แข่งแห่งชีวิต

หากการกลับมาพบกันของพี่น้องวิลเลียมส์ทำให้หัวใจของแฟนเทนนิสพองโต – การกลับมาเผชิญหน้าอีกครั้งของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ กับ ราฟาเอล นาดาล ยิ่งทำให้หัวใจของแฟนๆ เต้นระรัวยิ่งขึ้นไปอีก

เพราะแม้ทั้งคู่จะอยู่ในช่วงขาลงของชีวิตการเล่นมาสักระยะ และเปิดทางให้รุ่นหลังอย่าง โนวัค ยอโควิช และ เซอร์แอนดี เมอร์เรย์ ได้ขึ้นมาสัมผัสกับจุดสูงสุดของการเป็นนักเทนนิสบ้าง

แต่ปฏิเสธได้ยากว่า ‘บารมี’ ของทั้งยอโควิชและเมอร์เรย์นั้นห่างชั้นจากคู่ของ เฟเดอเรอร์และนาดาลหลายเท่า

แน่นอนว่าเราไม่สามารถเทียบเรื่องของ ‘ความสำเร็จ’ ได้ครับ

เฟเดอเรอร์ ยอดนักเทนนิสชาวสวิตเซอร์แลนด์ เป็นหนึ่งในนักเทนนิสระดับตำนานที่ยังโลดแล่นในสนามอยู่ กับตำแหน่งแชมป์เมเจอร์ 17 สมัย ขณะที่นาดาลคือคู่แข่งเพียงคนเดียวที่สามารถยืนหยัดต่อสู้กับเขาได้อย่างสนุกสูสีที่สุด และเป็นเจ้าของแกรนด์สแลมถึง 14 รายการ

คู่นี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดคู่แข่งคลาสสิก ไม่ด้อยไปกว่าคู่ของ บียอร์น บอร์ก และจอห์น แม็กเอนโร ในยุค 70s-80s และ พีท แซมพราส กับอังเดร อากัสซี ในยุค 90s

อย่างไรก็ดีก่อนการกลับมาเผชิญหน้ากันครั้งนี้ ทั้งคู่ต่างเผชิญกับปัญหาอาการบาดเจ็บ และฟอร์มการเล่นตกต่ำมานาน
นานมากพอที่จะทำให้เริ่มสงสัยว่าพวกเขาจะกลับไปยืนอยู่จุดสูงสุดอีกครั้งได้หรือไม่

แฟนเทนนิสบางคนไม่เชื่อ และแม้แต่ตัวพวกเขาเองก็ไม่มั่นใจ โดยเฉพาะเฟเดอเรอร์ที่มีอาการบาดเจ็บและต้องพักการเล่นมาตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว ในช่วงวัย 35 ปี การบาดเจ็บที่ยาวนานขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน


แต่ในเดือนตุลาคม ทั้งสองมีโอกาสได้พบกันอีกครั้ง และมันเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมาของสองผู้ยิ่งใหญ่

เฟเดอเรอร์ได้รับเทียบเชิญจากนาดาลให้ร่วมพิธีเปิดอคาเดมีแห่งใหม่ของเขาในเมืองมายอร์กา ประเทศสเปน ซึ่ง ‘เฟ็ด’ ที่อยู่ระหว่างการพักรักษาอาการบาดเจ็บที่เข่า ตอบรับคำเชิญของนาดาลที่อยู่ระหว่างการรักษาอาการบาดเจ็บที่ข้อมือ และมีแนวโน้มในขณะนั้นว่าจะต้องพักการเล่นไปจนถึงสิ้นปีเหมือนคู่แข่ง

ในวันนั้น เฟเดอเรอร์กล่าวถึงคู่แข่งแห่งชีวิตของเขาว่า “คุณทำสำเร็จมาแล้วนับล้านครั้ง ดังนั้นผมเองก็สามารถที่จะซึมซับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่คุณทำให้การกลับมา (แข่งเทนนิส) ดูเป็นเรื่องง่ายๆ

“คุณกลับมาติดท็อปเทน ท็อปไฟว์ หรือแม้แต่กลับมาเป็นมือหนึ่งของโลกได้ และมันเป็นสิ่งที่ผมจะคิดถึงเมื่อผมกลับมาลงแข่งขันในช่วงเดือนมกราคม”

คำพูดเล็กๆ ในวันนั้นกลายเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ทั้งสองกลับมาพบกันในรอบชิงชนะเลิศอีกครั้งในวันนี้ – ถึงจะเป็นการพบกันอย่างไม่คาดคิด เพราะยอโควิชและเมอร์เรย์ต่างกระเด็นตกรอบไปก่อนแบบพลิกล็อกก็ตาม

แต่โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าด้วยสภาพร่างกายที่กลับมาสมบูรณ์ขึ้น ฝีไม้ลายมือที่ยังมีอยู่ ประสบการณ์ที่สั่งสมมานาน และหัวจิตหัวใจที่ผ่านการต่อสู้มาอย่างหนักหน่วง ต่อให้ต้องเจอกับมือหนึ่งและสองของโลก ทั้งเฟเดอเรอร์และนาดาลก็มีโอกาสจะผ่านมาถึงตรงนี้ได้อยู่ดี

สำหรับทั้งสองถึงแม้ว่าในสนามจะแข่งขันกันอย่างดุเดือดถึงขั้นเลือดพล่าน และมีสไตล์การเล่นและการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

แต่ทั้งคู่ต่างเคารพกันและกันเสมอครับ

และด้วยความที่ไม่อยากยอมกันในสนามก็ทำให้ต่างฝ่ายต่างพัฒนาและรักษาระดับการเล่นต่อเนื่องมายาวนาน

นับจากวันแรกที่พบกันในการแข่งที่ ไมอามี มาสเตอร์ส เมื่อปี 2004 ซึ่งวันนั้น เฟเดอเรอร์มือหนึ่งของโลกในวัย 21 ปี พ่ายแพ้ต่อนาดาลในวัย 17 ปี 6-3, 6-3 ทั้งคู่ไม่เคยยอมกันจนมาถึงวันนี้ที่ทั้งคู่อายุอานามเข้าสู่เลข 35 และ 30 ปีตามลำดับ

แม้กระทั่งในการพบกันนัดชิงแกรนด์สแลมครั้งที่ 9 เกมเป็นไปอย่างสนุก สูสี เต็มไปด้วยการชิงไหวชิงพริบชิงเหลี่ยมกันสมใจแฟนๆ ที่เหมือนได้ลมพัดหวนชวนให้คิดถึงวันเวลาเก่าๆ ในวันที่ทั้งสองยังเป็น ‘ที่สุด’

เหมือนในนัดชิงวิมเบิลดันปี 2008 เกมที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสุดยอดแมตช์ในตำนาน ที่ทั้งสองซึ่งอยู่ในช่วงท็อปพีกทั้งคู่ ต้องต่อสู้กันยาวนานถึง 5 ชั่วโมง ก่อนที่ นาดาลจะเป็นฝ่ายชนะในเกมนั้น

สำหรับเกมนี้จบลงด้วยชัยชนะของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ในเกมสุดมันที่ต้องห้ำหั่นกันถึง 5 เซต

หลังจากนี้น่าสนใจครับว่า เฟเดอเรอร์จะกลับมาทวงมงกุฎราชาของเขากลับคืนมาได้เหมือน เซเรนา วิลเลียมส์ หรือไม่

แต่สิ่งหนึ่งที่เราได้เห็นจากออสเตรเลียน โอเพน ครั้งนี้คือ ในความเป็น ‘มือหนึ่ง’ นั้นมันต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างประกอบเข้าด้วยกัน

โดยหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญก็คือคนที่พร้อมจะเป็นทั้งคู่แข่งและแรงบันดาลใจในเวลาเดียวกัน

ไม่ต่างอะไรจาก ‘คู่แท้’ ที่จะทำให้ไฟในหัวใจลุกโชนตลอดกาล

Photo: Thomas Peter, Reuters/profile

 

DID YOU KNOW?

  • ก่อนหน้านี้ เฟเดอเรอร์ และนาดาล เคยพบกันในรอบชิงแกรนด์สแลมมาแล้ว 8 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นรายการ เฟรนช์ โอเพน (4 ครั้ง) และวิมเบิลดัน (3 ครั้ง) ส่วนการพบกันครั้งนี้เป็นการพบกันในนัดชิง ออสเตรเลียน โอเพน ครั้งที่ 2 เท่านั้น ต่างฝ่ายต่างชนะไปคนละครั้ง (นาดาล 2009, เฟเดอเรอร์ 2017)
  • พี่น้องวิลเลียมส์ คว้าแชมป์แกรนด์สแลมรวมกัน 30 ครั้ง (เซเรนา 23, วีนัส 7) นับตั้งแต่การพบกันครั้งแรกเมื่อปี 1998
  • พี่น้องวิลเลียมส์ถูกกำหนดให้เป็นนักเทนนิสอาชีพตั้งแต่เด็ก หลัง ริชาร์ด วิลเลียมส์ พ่อของพวกเธอเห็นข่าวนักเทนนิสชาวโรมาเนียน ได้รับเงินรางวัลจากการแข่งขันถึง 40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
  • ในขณะที่เฟเดอเรอร์ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น Most Stylish Man แห่งปี 2016 โดยนิตยสาร GQ พูดได้ 3 ภาษา ใช้ชีวิตบนแสงไฟ นาดาลกลับเป็นคนเรียบง่ายอย่างเหลือเชื่อ และเวลาที่ไม่มีแข่งก็มักจะอยู่บ้านในเกาะมายอร์กา ตกปลา และตีกอล์ฟกับเพื่อนๆ
Tags: ,