ผมไม่ต้องการเป็น บัวขาว บัญชาเมฆ มากไปกว่าการเป็นนักชกจากประเทศไทย
และได้อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ไว้เหนือศีรษะเพื่อให้คนทั้งโลกได้เห็น

ไม่ว่าจะขึ้นเวทีชกมวยกี่ครั้ง ชกที่ไหน คู่ต่อสู้จะเป็นใคร ชาติไหน ต่อยหนัก ต่อยเร็ว อึด ทน ถึกขนาดไหน ผมกล้าพูดได้เต็มปากว่าผมไม่เคยกลัว

แต่เชื่อไหมครับ มีอยู่อย่างเดียวที่ทำให้ผมกลัว ไม่ใช่คู่ต่อสู้จากชาติไหน ไม่มีอาวุธหนักหน่วงอะไร ไม่ใช่ใครที่ไหน และที่สำคัญ ไม่ใช่คน สิ่งนั้นคือ ‘กล้อง’ ครับ กล้องถ่ายหนังธรรมดาๆ นี่ล่ะ

ที่ผ่านมามีคนติดต่อผมให้ไปเล่นหนังเล่นซีรีส์หลายครั้งมาก แต่ผมก็ไม่เคยตกลง จะมีก็แค่ ซามูไร อโยธยากับ คุณนายโฮ ที่เป็นบทรับเชิญเล็กๆ ไม่ต้องทำอะไรมาก ถึงจะเห็นออกมาไม่เยอะ แต่แค่นั้นผมก็ทำใจลำบากมากแล้ว

กล้องวิดีโอในกองถ่ายหนังจะคนละเรื่องกับกล้องวิดีโอที่ใช้ถ่ายทอดสดเวลาชกมวย อาจจะเป็นเพราะบนเวทีมวยคือพื้นที่ของผม ผมรู้สึกปลอดภัยถึงแม้จะมีกล้องคอยจับอยู่จากทุกด้าน แต่ในกองถ่ายหนัง กล้องวิดีโอไม่กี่ตัว แต่พลังกดดันน่ากลัวกว่าเอาคู่ต่อสู้ของผม 300 กว่าคนมารวมกัน

กดดันเพราะนั่นไม่ใช่ที่ที่ผมคุ้นเคย ผมไม่ถนัดที่จะต้องพูดตามที่คนอื่นบอกให้พูด ปกติก็ไม่ใช่คนที่พูดเก่งอะไร ยิ่งมีคนให้พูดตามยิ่งไม่เป็นธรรมชาติเข้าไปใหญ่ แต่ที่กดดันที่สุดคือผมไม่อยากทำให้คนอื่นเสียเวลา

มีอยู่อย่างเดียวที่ทำให้ผมกลัว ไม่ใช่คู่ต่อสู้จากชาติไหน ไม่มีอาวุธหนักหน่วงอะไร
ไม่ใช่ใครที่ไหน และที่สำคัญ ไม่ใช่คน สิ่งนั้นคือ ‘กล้อง’

ตลอดชีวิตการเป็นนักมวย ผมเคร่งครัดกับระเบียบวินัยมาก เรื่องเวลาก็เหมือนกัน ทุกอย่างต้องอยู่ในตารางที่กำหนด ซ้อมวันไหน กี่โมงถึงกี่โมง จะให้คลาดเคลื่อนไม่ได้เด็ดขาด แล้วเวลาอยู่ในกองถ่ายหนังมันไม่ใช่แค่เวลาของผมคนเดียว ถ้าผมทำไม่ดี เท่ากับผมจะทำให้เวลาของคนอื่นคลาดเคลื่อนไปด้วย

แล้วสิ่งที่ตลกก็คือยิ่งกดดันก็ยิ่งช้า ยิ่งพยายามให้เป็นธรรมชาติก็ยิ่งฝืนตัวเอง นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมหลีกเลี่ยงการเล่นหนัง เล่นละครมาตลอด จนมาถึงเรื่องล่าสุด ทองดีฟันขาว ที่ไม่ใช่แค่บทตัวประกอบ แต่เป็นตัวแสดงหลักที่ต้องเล่นนำทั้งเรื่อง!

ความจริงผมก็ไม่เชื่อตัวเองเหมือนกันว่าจะกล้าตัดสินใจอะไรแบบนี้ แต่เรื่องนี้มีอยู่ 2 เหตุผลที่ทำให้ปฏิเสธไม่ได้

หนึ่งคือคำพูดของ พี่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผู้กำกับ ที่บอกว่าถ้าไม่ได้ผมไปแสดง หนังเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าผมรู้สึกผยองหรือได้ใจอะไรจนยอมเล่นนะครับ แต่พอได้คุยกับพี่บิณฑ์หลายๆ ครั้ง ผมเห็นความตั้งใจที่จะทำหนังเรื่องนี้ ผมเห็นความตั้งใจที่จะให้ผมเล่นเรื่องนี้ให้ได้ เป็นความมุ่งมั่นตั้งใจที่ทำให้ผมรู้สึกถึงตัวเองเวลาชกมวย ผมก็ตั้งใจแบบนี้เหมือนกัน ผมยอมแพ้ความตั้งใจของเขา นั่นคือเหตุผลแรกง

เหตุผลที่สองคือ พอรู้เรื่องของทองดี หรือพระยาพิชัยดาบหักมากเข้า ก็ยิ่งรู้สึกศรัทธาในคนคนนี้ยิ่งขึ้น บุคคลนี้คือคนดีมีความสามารถ มีความจงรักภักดีเป็นที่สุด เป็นหนึ่งในบุคคลที่ประเทศชาติควรจะต้องจารึกไว้ และคงจะดีเหมือนกันที่ผมจะวางตัวตนของตัวเองลงแล้วเป็นส่วนหนึ่งในการบันทึกประวัติศาสตร์ของคนที่น่าเคารพขนาดนี้ ต้องขออนุญาตไว้ก่อนที่จะเล่าเรื่องต่อไปนะครับ ผมไม่อาจเอาตัวไปเปรียบเทียบกับคนระดับท่าน แต่เวลาที่อ่านบท ผมแอบรู้สึกว่าผมกับท่านมีความคล้ายคลึงกันอยู่หลายส่วน และคงเพราะเหตุผลนี้ด้วยที่ทำให้ผมตั้งใจที่จะสวมบทบาทนี้มากขึ้นไปอีก มากถึงขนาดยอมเรียนแอ็กติ้งเป็นครั้งแรกในชีวิต เพราะอยากทำออกมาให้ดีที่สุดจริงๆ

ความตั้งใจของผมที่ว่ามีมากเท่าไรก็ยังต้องแพ้ให้กับความตั้งใจของท่าน ในสมัยก่อนที่การเดินทางยังไม่สะดวก ค่ายมวยอยู่กระจัดกระจายตามจังหวัดต่างๆ ต้องเดินทางเป็นสัปดาห์ เป็นเดือนเพื่อไปขอวิชาความรู้ แต่ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน ท่านก็ไม่เคยท้อถอย ท่านไปทุกที่เพื่อฝึกวิชามวยให้เก่งกล้ายิ่งขึ้น คิดไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าเกิดในยุคนั้นผมจะกล้าทำถึงขนาดนั้นหรือเปล่า

การเป็นคนรักเพื่อน เฮไหนเฮนั่น ไม่รังแกใคร แต่ถ้าใครมารังแก ต่อให้สู้ไม่ได้ เราก็สู้ไม่ถอยเหมือนกัน และเรื่องที่สำคัญที่สุดคือการทุ่มเทชีวิตเพื่อเป็นทหารของพระราชา ทองดีฝึกฝนวิชาต่อสู้จนแข็งแกร่ง รับราชการเป็นทหารของพระเจ้ากรุงธนบุรี ต่อสู้เคียงข้างกับพระองค์แบบถวายชีวิต ยอมเสียชีวิต แต่จะไม่ยอมเสียเอกราช จนได้รับยศเป็นพระยาพิชัยดาบหัก ตัวอย่างของยอดคนผู้ภักดีสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้

ยิ่งกดดันก็ยิ่งช้า ยิ่งพยายามให้เป็นธรรมชาติก็ยิ่งฝืนตัวเอง
นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมหลีกเลี่ยงการเล่นหนัง เล่นละครมาตลอด

นักมวยอย่างผมคงเป็นได้แค่เศษฝุ่นเล็กๆ ถ้าเทียบกับสิ่งที่ท่านทำไว้ แต่ผมก็ตั้งใจว่าทุกครั้งที่ขึ้นเวที ผมแบกชื่อเสียงของประเทศไทยขึ้นไปด้วยทุกครั้ง ชื่อเสียงของผมกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย ผมไม่ต้องการเป็น บัวขาว บัญชาเมฆ มากไปกว่าการเป็นนักชกจากประเทศไทยและได้อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ไว้เหนือศีรษะเพื่อให้คนทั้งโลกได้เห็น

และในเรื่องนี้ผมก็ไม่ใช่บัวขาวที่เป็นนักแสดง ผมเป็นแค่คนหนึ่งที่รับหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวอันยิ่งใหญ่นี้เท่านั้น ผมคิดว่าวีรกรรมของนายทองดีฟันขาว สอนใจคนได้ทุกเรื่อง และคงจะน่าเสียดายถ้าคนดีๆ จะไม่ได้ถูกพูดถึงและเลือนหายไปจากความทรงจำของคนรุ่นหลัง

Tags: ,