ทุกสปอตไลต์สาดส่องไปที่ พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ทันที หลังจากที่เมื่อวาน (18 ต.ค. 2559) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยให้มีผลในทันที และให้ พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ขึ้นเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแทน

เขาคือใคร มาจากไหน มีผลงานอะไร จุดเด่นอยู่ตรงไหน และคนกรุงเทพฯ จะไว้ใจเขาให้ทำหน้าที่นี้ได้หรือไม่ The Momentum ไม่รอช้า พาไปทำความรู้จักกับเขากัน

Photo: ศูนย์ข้อมูลกรุงเทพมหานคร

1. มือปราบขวัญใจสื่อมวลชน

พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ปัจจุบันอายุ 65 ปี เป็นชาวจังหวัดสุพรรณบุรี เคยรับราชการตำรวจ และมีตำแหน่งสำคัญ อาทิ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 และรักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1

พล.ต.อ. อัศวิน หรือ ‘บิ๊กวิน’ ได้รับฉายาว่าเป็น ‘มือปราบ’ ขวัญใจสื่อมวลชน ตั้งแต่ 20 กว่าปีที่แล้ว สมัยที่ยังคุมกองปราบปราม เนื่องจากมักได้รับมอบหมายให้คลี่คลายคดีสำคัญ อาทิ คดีสังหารแม่ ส.ส. คมคาย พลบุตร รวมถึงคดีที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังจากการล้อมจับ ‘โจ ด่านช้าง’ ที่จังหวัดสุพรรณบุรี จนกลายเป็นคดีวิสามัญฆาตกรรมอันลือลั่น

 

2. สุเทพ เทือกสุบรรณ เคยทาบทามให้เป็นรองผู้ว่าฯ กทม.

หลังจากเติบโตตามสายมือปราบ ‘บิ๊กวิน’ ก็มีผลงานคลี่คลายคดี ‘คาร์บอมบ์’ ลอบสังหาร ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงคดีสุดท้ายก่อนเกษียณราชการ อย่างการทำลายขบวนการยาเสพติดแก๊ง ‘โจ๊ก-จิ๊บ ไผ่เขียว’ ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี และ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจบลงด้วยการวิสามัญฆาตกรรม ‘โจ๊ก ไผ่เขียว’ ในเวลาไม่กี่วัน

เมื่อ พล.ต.อ. อัศวิน เกษียณอายุราชการ สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้น ทาบทามให้เป็นทีมงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. สมัยที่ 2 และได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. ทันที

 

3. จอมจัดระเบียบ รถตู้อนุสาวรีย์ชัยฯ ทางเท้าสยาม คลองถม สะพานเหล็ก และป้อมมหากาฬ

ตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. ของ พล.ต.อ. อัศวิน เด่นเหนือผู้ว่าฯ กทม. เสียอีก เพราะหลังการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.ต.อ. อัศวิน ได้รับบทบาทสำคัญตั้งแต่ การจัดระเบียบรถตู้โดยสารบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จัดระเบียบวินมอเตอร์ไซค์ รวมถึงเป็นแม่งานจัดระเบียบ ‘คลองถม-สะพานเหล็ก’ จนสวยงาม สะอาดตา กลายเป็นผลงานเด่นของกทม. และยังเข้าตาบิ๊กทหารอีกด้วย

หลังจากนั้น พล.ต.อ. อัศวิน ก็เดินหน้าจัดระเบียบ ‘หาบเร่-แผงลอย’ อีกหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น สีลม ปากคลองตลาด รวมถึงที่ได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุดอย่างการจัดระเบียบแผงลอยบริเวณสยามสแควร์ ขณะที่งานสุดหินอย่างการทวงคืนชุมชนโบราณ ‘ป้อมมหากาฬ’ ก็มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องด้วยฝีมือของเขา

4. มีทั้งไม้แข็งและไม้นวม

จุดเด่นของ พล.ต.อ. อัศวิน หนีไม่พ้นพื้นฐานจากการเป็น ‘มือปราบ’ ซึ่งต้องมี ‘สายข่าว’ คอยเป็นหูเป็นตาตลอดเวลา สอดคล้องกับยุค คสช. ที่เน้นการจัดระเบียบ สร้างความสงบเรียบร้อย ขณะเดียวกัน ทักษะในการเจรจาต่อรองกับมวลชนของ พล.ต.อ. อัศวิน ก็ไม่เป็นรองใคร จากประสบการณ์ทั้งการคุมม็อบ รวมถึงการจัดระเบียบแผงลอย ก็ใช้ทั้งไม้นวมและไม้แข็งจนผู้ค้าหลายรายยอมสยบมาแล้ว

 

5. ไฟประดับ 39 ล้านบาท ชนักติดหลัง

อย่างไรก็ตาม เขายังมีชนักติดหลังจากปัญหาเดิมในยุค ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ อย่างการจัดซื้อไฟประดับ 39 ล้านบาท การปรับปรุงห้องทำงานราคาสูงเกินจริง รวมถึงการจัดซื้อรถดับเพลิงคันเล็ก หรือเรือผิวน้ำราคาแพง ซึ่งแน่นอนว่าเสียงจากสังคมจะตั้งคำถามดังขึ้นเรื่อยๆ ว่า พล.ต.อ. อัศวิน จะกล้าจัดการปัญหาการคอร์รัปชันในยุคที่ตัวเองเป็นผู้บริหารด้วยหรือไม่

 

6. ความกดดันและความท้าทาย

การบริหารเมืองใหญ่ประชากรมากกว่า 10 ล้านคน มีตั้งแต่งานประจำวันอย่างการจัดการน้ำท่วมขัง ‘รอระบาย’ หรือการแก้ปัญหาจราจร ขณะเดียวกันเมื่อกุมบังเหียนในช่วงนี้ ก็หมายความว่า รัฐบาลไว้วางใจให้ พล.ต.อ. อัศวิน จัดกรุงเทพฯ ให้สวยงาม เป็นระเบียบ เพื่อรับพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และงานเมกะโปรเจกต์ ที่ คสช. ริเริ่มและผลักดันเต็มที่อย่างการสร้างทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา 14  กิโลเมตร มูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเต็มไปด้วยเสียงค้านทั้งจากชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา นักสิ่งแวดล้อม หรือสมาคมสถาปนิกสยาม

 

7. ไม่มีเวลาฮันนีมูน

แน่นอนว่าผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ไม่มีเวลาฮันนีมูน เพราะถือว่ารับตำแหน่งเป็น ‘ผู้ว่ากทม.’ จากการแต่งตั้งคนแรกในรอบ 31 ปี ขณะเดียวกันก็รับตำแหน่งท่ามกลาง ‘ความโศกเศร้า’ จากการสูญเสียครั้งใหญ่ของแผ่นดิน และ ‘ความผิดหวัง’ จากนักการเมือง เพราะฉะนั้นทุกเสียงที่เคยเลือก และไม่ได้เลือกอดีตผู้ว่าฯ คนก่อน ย่อมจับตามายัง พล.ต.อ. อัศวิน

ในเวลาเดียวกัน คสช. ก็ต้องการสร้างผลงานผ่านผู้ว่าฯ กทม. ให้เป็นที่ประจักษ์เช่นเดียวกัน เพราะหากผ่านพ้นช่วงพระราชพิธี และสามารถจัดการเมกะโปรเจกต์อย่างทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาได้ตลอดรอดฝั่ง คสช. ก็ย่อมได้คะแนนเสียงจาก ‘คนกรุง’ ที่ถือเป็นกลุ่มคน ‘เสียงดัง’ และมีผลต่อการเปลี่ยนผ่านอำนาจสู่การเลือกตั้งระดับชาติ ซึ่งจะเกิดขึ้นในอีกเพียง 1 ปีครึ่ง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

ภาพประกอบ: Karin Foxx

Tags: , , , , , ,