เมื่อคืนนี้ (11 ม.ค. ตามเวลาประเทศไทย) ว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาแถลงข่าวครั้งแรกในรอบ 167 วัน แน่นอนว่าประเด็นหลักที่ผู้สื่อข่าวจ่อไมค์ถามเขาคือประเด็น ‘Fake News’ หรือข่าวปลอม ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง ที่ทรัมป์เองยืนกรานปฏิเสธมาตลอดว่า ข้อกล่าวหานี้เป็นเพียงอาการ ‘ขี้แพ้ชวนตี’ ของพรรคเดโมแครต และทรัมป์เองก็เซย์โนที่จะตอบคำถามนี้ในการแถลงข่าว

แต่ จิม อคอสตา (Jim Acosta) นักข่าวอาวุโสประจำทำเทียบขาวของ CNN ไม่ลดละความพยายาม เขาจี้ถามทรัมป์อย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายเวทีการแถลงข่าวกลายเป็นเวทีการต่อสู้กันระหว่างทรัมป์กับนักข่าว CNN และสุดท้ายทรัมป์อดทนไม่ไหว จนชี้หน้าและตอบกลับว่า “ไม่ใช่คุณนะ แต่องค์กรคุณเป็นองค์กรที่แย่” และ

“ผมจะไม่ตอบคำถามคุณ คุณคือสำนักข่าวปลอม!”

ประเด็นถกเถียงที่รัสเซียแฮกข้อมูลสหรัฐฯ และส่งผลให้มี Fake News หรือข่าวปลอมฟุ้งเต็มสื่อออนไลน์ เพื่อแทรกแซงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีให้โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งนั้นยังคงเป็นประเด็นร้อนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ออกมายืนยันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัสเซียได้แฮกข้อมูลของสหรัฐฯ จริง และที่สำคัญมีเป้าหมายเพื่อให้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง

สื่ออย่าง CNN ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดว่า เป็นสื่อที่โอนเอียงไปทางพรรคเดโมแครต ได้เปิดเผยรายงานที่ระบุว่า แท้จริงแล้วทรัมป์นั้นได้รับการสนับสนุนและปลุกปั้นโดยรัสเซียมาเป็นเวลาหลายปี! โดย CNN ได้อ้างถึงแหล่งข่าวที่เป็นอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของอังกฤษ

ทรัมป์ยืนกรานปฏิเสธรายงานของ CNN และบอกว่าสื่อพวกนี้คือ คนป่วย

นอกจาก CNN แล้ว เว็บไซต์ข่าวอย่าง BuzzFeed คืออีกสำนักข่าวที่เปิดโปงรายงานซึ่งสนับสนุนข้อกล่าวหาที่ระบุว่า รัสเซียได้แทรกแซงผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯ และทรัมป์ได้โต้ตอบกลับ Buzzfeed อย่างดุเดือดเช่นกันว่า

“รายงานพวกนี้คือข่าวปลอมทั้งหมด! เป็นสิ่งที่กุขึ้นมา เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้น เป็นข้อมูลที่ได้มาจากฝ่ายที่พยายามจะโจมตีเรา จากฝ่ายตรงข้ามเราที่ผนึกกำลังกัน เป็นพวกคนป่วย ที่ช่วยกันเปิดเผยข้อมูลขยะ”

ทรัมป์ยังกล่าวหาเว็บไซต์ข่าว BuzzFeed ว่า “เหมือนขยะกองใหญ่” และยืนยันว่ารายงานพวกนี้ “จะได้รับการตอบแทนอย่างเจ็บปวด”

หลังจากนั้นวุฒิภาวะของทรัมป์ในการรับมือกับสื่อ และประเด็นการโอนเอียงของสื่อก็กลับมาร้อนฉ่าอีกครั้งในโลกออนไลน์ เมื่อเราดูเฟซบุ๊กของสำนักข่าว CNN จะมีทั้งความเห็นที่ให้การสนับสนุน CNN และการกล่าวหาทรัมป์ ขณะที่บางความเห็นนั้นก็มองว่า CNN คือสำนักข่าวที่บิดเบือน และไร้ความเป็นกลาง

“ขอบคุณ CNN และขอให้ผมเป็นคนแรกที่ได้ขอโทษแทนว่าที่ประธานาธิบดี ผมเคารพและชื่นชมองค์กรของคุณ มันน่าเศร้าที่เราอยู่ในประเทศที่เจอกับคนคนหนึ่งที่สามารถทำให้คนทะเลาะกันได้”

“CNN คุณหมดความน่าเชื่อถือไปแล้วตั้งแต่การเลือกตั้งที่ผ่านมา และตอนนี้ความน่าเชื่อถือของคุณติดลบ การเป็นสถานีข่าวที่ไม่เลือกข้าง และนำเสนอความจริงโดยไม่ใส่ความเห็น น่าจะเป็นการเริ่มต้นที่ดี”

“เราจะต้องเจออะไรอีกเยอะใน 4 ปีข้างหน้า หากนี่คือวิธีการที่ผู้ชายคนนี้รับมือกับคำถาม เขาไม่ได้ไม่สามารถตอบคำถามได้ แต่เขาคือตัวตลก! ไร้รสนิยม ไร้ไหวพริบ”

“โอเค หาก CNN ไม่ได้เป็นสื่อ propraganda ที่มีนัยยะซ่อนเร้น และรายงานข้อมูลที่ไม่แม่นยำ ก็คงจะไม่ถูกปฏิเสธแบบนี้หรอก”

แถลงการณ์ของ CNN หลังจากโดนทรัมป์โจมตี

หลังจากทรัมป์ตอบโต้ จิม อคอสตา นักข่าว CNN กลางวงแถลงข่าว CNN ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ โดยมีเนื้อหาว่า

“เรามั่นใจในเนื้อหาของรายงาน ซึ่งตรงตามหน้าที่ของสื่อที่ระบุในรัฐธรรมนูญ ที่สื่อต้องให้ข้อมูลกับประชาชนเกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาล

“รายงานของเราชัดเจนว่า เราไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของรายงานฉบับเต็มทั้ง 35 หน้า เพราะเราไม่ได้ต้องการยืนยันข้อกล่าวหาในรายงานนั้น ดังนั้นการที่ทีมของทรัมป์กล่าวหารายงานของเราด้วยคำพูด เราจึงเรียกร้องให้ทีมงานออกมาระบุอย่างชัดเจนว่า ส่วนไหนของรายงานเราที่ไม่แม่นยำ”

นอกจากนี้ CNN ยังย้ำจุดยืนว่า รายงานของ CNN นั้นแตกต่างจาก BuzzFeed ที่เปิดเผยรายงานที่ไม่ได้รับการยืนยัน “และทีมของทรัมป์ทราบความจริงข้อนี้ดี แต่พวกเขาใช้การกระทำของ BuzzFeed มาเบี่ยงเบนความสนใจไปจากรายงานของ CNN ที่ข้อมูลสอดคล้องกับสำนักข่าวใหญ่อีกหลายสำนัก”

รายงานของ CNN และรายงานของ BuzzFeed

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีส่วนหนึ่งของรายงานจำนวน 2  หน้าใน 35 หน้าที่เปิดเผยว่า รัสเซียได้ออกตัวว่าได้รู้เห็นข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลทางการเงินของทรัมป์ รายงานฉบับนี้ถูกรวบรวมโดยอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของอังกฤษ ซึ่งไปสนับสนุนและสอดคล้องกับรายงานของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ที่ยืนยันว่ารัสเซียได้แทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ครั้งล่าสุด และขณะนี้ FBI กำลังตรวจสอบความน่าเชื่อถือและความแม่นยำของข้อกล่าวหานี้

CNN ได้เปิดเผยว่า แหล่งข่าวได้บอกกับ CNN ว่า ข้อมูลที่ระบุว่า มีการสื่อสารกันระหว่างทีมหาเสียงของทรัมป์กับรัสเซีย ได้นำเสนอต่อทรัมป์ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลนี้ได้ถูกยกมาพูดในการพบปะกันระหว่างทรัมป์กับเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองหรือไม่

CNN ยืนยันว่า CNN ได้พูดถึงรายงานฉบับเต็มทั้ง 35 หน้า แต่ไม่ได้พูดถึงรายละเอียดของรายงานฉบับนี้ที่ไม่ได้รับการยืนยัน ขณะที่ BuzzFeed ได้เลือกที่จะเผยแพร่รายละเอียดของรายงานฉบับนี้ รวมถึง The New York Times ได้นำเนื้อหานี้ไปอ้างอิงในบทความเช่นกัน หลังจากนั้นจึงเกิดเป็นข้อถกเถียงในเรื่องของจริยธรรมและจรรยาบรรณของสื่อว่าควรเปิดเผยรายงานชิ้นนี้หรือไม่

ทาง BuzzFeed ได้ออกมาระบุว่า “สำนักข่าว BuzzFeed ได้เผยแพร่รายงานฉบับเต็ม เพื่อให้ชาวอเมริกันสามารถตัดสินใจได้เองเกี่ยวกับข้อกล่าวหานี้ ซึ่งเกี่ยวกับว่าที่ประธานาธิบดี คนที่กำลังจะมีอำนาจสูงที่สุดในรัฐบาล”

แม้ข้อกล่าวหาว่ารัสเซียนั้นได้แทรกแซงผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯ เพื่อช่วยให้ทรัมป์ชนะนั้นยังไม่สามารถยืนยันได้ แต่ประเด็นที่ชาวอเมริกันถกเถียงกันในขณะนี้คือ ประธานาธิบดีคนต่อไปของพวกเขาจะรับมือกับคำถามและคำวิจารณ์อย่างไรในอนาคต

ที่ดูแล้วว่าอีก 4 ปีนับจากนี้บรรยากาศของทำเนียบขาวน่าจะดุเดือดไม่น้อย

อ่านรายละเอียดเพิ่มได้ใน การแฮกข้อมูลคือสงครามรูปแบบใหม่!? เมื่อหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ รู้ตัวคนล้วงข้อมูลให้ WikiLeaks

อ้างอิง:

Tags: , , ,