อันที่จริงเธอเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 16-17 จากการถ่ายแบบเดินแบบ จนมาถึงการแสดงละคร ซีรีส์ และมิวสิกวีดิโอ จะบอกว่าเธอฝันจะเป็นนักแสดงก็คงไม่ถูกนัก เพราะความฝันจริงๆ คือเธออยากเป็นนักร้องมากกว่า แล้วเราก็รู้ทันทีว่าเธอมีพรสวรรค์ในสิ่งที่ฝัน เมื่อได้ฟังซิงเกิล ‘พบเธอก่อน’ ที่เธอออกกับค่าย White Music

มิ้นท์-ภัทรศยา ยงรัตนมงคล คือชื่อเต็มๆ ของเธอที่แวดวงบันเทิงและกูเกิลรู้จัก ถ้าลองไปเสิร์ชก็จะพบกับเส้นเรื่องทำนองว่า เธอเป็นสาวไฮไซที่มีข่าวความรักกับดาราหนุ่ม หรือฉายาที่สื่อให้ว่าเป็น ‘เจ้าแม่นางเอกเอ็มวี’ เพราะเล่นเอ็มวีเยอะเหลือเกิน แต่คนก็ยังจำหน้าไม่ค่อยได้ จนมาเล่นเอ็มวี ‘เรื่องที่ขอ’ ของลุลา ต่อด้วยการออกผลงานเพลงซิงเกิลแรกของตัวเองที่ทำให้คนรู้จักมากขึ้น

การฟอลโลว์ไอจีทำให้ผมรู้จักเธอมากขึ้นไปอีกสเตป แถมยังได้ฟังเพลงของเธอซึ่งให้ความรู้สึกไปถึงเพลงในยุค 90s เป็นหญิงสาวมากความสามารถทีเดียว ผมคิด

แต่ก็อย่างที่คนพูดกัน อยากรู้จักใครก็ต้องลองได้นั่งคุยกับเขาก่อน และผมก็ได้นั่งคุยกับเธอในช่วงเย็นวันหนึ่ง ระหว่างที่เธอกำลังแต่งหน้าทำผมเพื่อไปงานอีเวนต์สักงาน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผมหวั่นไหวแค่ไหน

ตัวตน

ถ้าไปถามเธอตอนอายุ 18 ว่าเป็นคนแบบไหน ชอบทำอะไร เธอจะบอกว่าเป็นคนชอบเที่ยว แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่ปี กับเลขอายุ 24 ตอนนี้ เธอสารภาพว่าชอบอยู่บ้านมากกว่า

“สมัยก่อนแปลกมาก เวลาไปเที่ยวกลับบ้านตี 3 ตี 4 ตื่นมาสิบโมงเช้าก็ยังมีแรง ตอนเที่ยงเหมือนคนใหม่ แต่ตอนนี้ถ้าเราทำแบบนั้น ทุ่มหนึ่งยังไม่ฟื้นเลย ตอนนี้นานๆ ทีจะออกไปเที่ยวแล้วรู้สึกว่าสนุกกว่าออกทุกวัน อาจด้วยวัยเด็กเราชอบปาร์ตี้ พอโตขึ้นมันก็เปลี่ยนไป คุณพ่อคุณแม่ยังบอกเลย พอโตขึ้นเราดูนิ่งขึ้น รู้สึกไม่อยากออกไปไหน อยากอยู่บ้านมากกว่า”

เธอยอมรับกับผมว่าเอาเข้าจริงแล้วเธอเป็นคนขี้เกียจ

“เราเป็นคนขี้เกียจนะ วันหนึ่งจะเซตเลยว่าต้องทำอะไร ตื่นมาออกกำลังกาย ถ้าไม่ได้ไปทำงานก็จะให้คนมานวดที่บ้าน เสร็จแล้วก็ดูหนัง กินข้าว แล้วก็นอน นั่นคือวันของเราซึ่งมันน่าเบื่อมาก (หัวเราะ) คือเราชอบเปิดเพลงฟังในบ้านคนเดียว อ่านหนังสือ หรือหาหนังเก่าๆ มาดู”

ว่าแต่ทำไมมันดูไม่ตื่นเต้นเลย เทียบกับภาพลักษณ์ของคุณที่ดูเป็นสาวพราวเสน่ห์ ผมยังสงสัย

“ไม่เคยคิดว่าตัวเองมีเสน่ห์ ตื่นมาก็เห็นหน้าตัวเองโทรมๆ แบบนี้ จะมีก็แค่ตอนแต่งหน้าที่ดูดีขึ้น แต่ก็มีคนบอกว่าชอบตาเราที่ดูสวยมีเสน่ห์”

การทำงาน

นางแบบ / นักแสดง / นักร้อง ทุกอย่างที่เธอได้ทำในวงการบันเทิง เธอรู้สึกได้ถึงพลังงานของคนในวงการบันเทิงที่ส่งต่อให้เธอ และความรู้ใหม่ๆ ที่ได้รับก็เปรียบเสมือนการจุดไฟการทำงานในตัวเธอเอง

“การเป็นนางแบบมันคงแล้วแต่โจทย์ที่เราได้ในวันนั้น แต่ถ้าเป็นการแสดง เราต้องทบทวนเรื่องคาแรกเตอร์ของตัวละคร บทพูด ไม่ใช่แค่มีบทมาแล้วเราพูดไปตามนั้น เราต้องรู้ว่าตัวละครที่เรากำลังเล่นเป็นคนแบบไหน ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ ทำให้เวลาแสดงมันจะมีไดนามิก แทบไม่ต้องคิดเลยว่าจะพูดว่าอะไร ถ้าเราเข้าถึงตัวละครตัวนั้นอยู่แล้ว”

“ส่วนการเป็นนักร้องมันคือตัวเราจริงๆ ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก แค่ถ่ายทอดความเป็นตัวเองออกมาให้คนเห็นในสิ่งที่เราอยากให้เขาเห็น และทำให้เขาเข้าถึงเราได้มากที่สุด”

เธอผ่านการเล่นเอ็มวีมามากถึง 24 เรื่องจนได้ฉายาว่าเจ้าแม่นางเอกเอ็มวี

“มันเยอะมาก เราไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขาจ้างเราเยอะขนาดนี้ทำไม หน้าซ้ำมาก (หัวเราะ) แต่มันดีที่เราได้เห็นตัวเองในลุคอื่นด้วย แม้การเล่นเอ็มวีจะเหนื่อย แต่เราชอบเพราะมันไม่ต้องแสดงเยอะมาก เน้นใส่อารมณ์ของเราเข้าไป”

“ถ้าถามว่าชอบเล่นเอ็มวีแบบไหน เราชอบแบบที่เน้นมูดแอนด์โทนจริงๆ ขึ้นอยู่กับผู้กำกับด้วย ส่วนหนึ่งคือถ้าผู้กำกับเก่งจะทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเอ็มวีที่เราต้องร้องไห้เยอะๆ เขาก็จะบิ้วด์ให้เราร้องไห้ได้ เราเล่นเอ็มวีแบบไหนก็ได้ แต่เราจะไม่ชอบเอ็มวีที่ดูเหมือนเป็นละครมากๆ”

ความฝัน

แม้จะเข้าวงการบันเทิงด้วยการเป็นนางแบบและนักแสดงมาก่อน แต่ความฝันของเธอจริงๆ คืออยากเป็นนักร้อง และกว่าที่จะมีเพลงแรกเป็นของตัวเองก็ใช้เวลาหลายปีในการฝึกฝน

“เราเข้าไปเป็นศิลปินฝึกหัดของแกรมมี่ก็ต้องเรียนร้องเพลงเรียนเต้นและการแสดงคือเรียนหมดเลยฝึกเทคนิคการร้องการหายใจ”

และเพลงนั้นมีชื่อว่า ‘พบเธอก่อน’

“เราคุยกับค่าย White Music เขาให้เทสเสียงแล้วก็ผ่าน เขาบอกเสียงเราแหบ ดูไม่ได้หวานมาก เลยชวนมาทำเพลง ก็กลายเป็นเพลง‘พบเธอก่อน’ แต่งและเรียบเรียงโดยอะตอม ชนกันต์(รัตนอุดม) คือเรารู้สึกว่า อะตอมเป็นคนแต่งเพลงเศร้าอยู่แล้ว เราอยากได้เพลงรักในมุมมองของเขา ก็เลยเล่าชีวิตความรักให้อะตอมฟังว่า เรารู้สึกอยากอยู่คนเดียวมากๆ ทุกวันนี้เวลาเจอใครก็ไม่ได้รู้สึกอะไรขนาดนั้น ไม่ได้ทุ่มเทให้กับความรักแบบเมื่อก่อน แต่ไม่ได้แปลว่าไม่อยากมี ถ้าเจอคนที่ใช่ เราก็คงจะทุ่มเทเหมือนกัน”

“ตอนที่ปล่อยเพลงนี้ออกมา ตื่นเต้นมาก ตอนแรกคิดว่ามันจะไม่ดี แต่มันดีเกินคาด ในยูทูบไปถึงล้านวิวเร็วมาก เป็นสิ่งที่เราอยากทำตั้งแต่เด็ก เหมือนให้รางวัลตัวเอง สรุปคือเพลงทำให้คนรู้จัก เวลาเจอใครมีแต่คนบอกว่าเพลงเพราะ เราก็ดีใจไปด้วย”

เมื่อเพลงแรกได้รับเสียงชื่นชมขนาดนี้ เธอคิดจะเป็นนักร้องเต็มตัวแค่ไหน ผมถาม

“เราอยากเป็นนักร้องเต็มตัว เพราะมันให้คาแรกเตอร์ที่ชัดมากๆ กับความเป็นตัวเรา แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่ชอบการแสดง การแสดงเป็นศิลปะที่ศักดิ์สิทธ์มากๆ ต้องใช้ร่างกายเราในการสร้างสรรค์งานศิลปะออกมา เช่นเดียวกับเพลงที่เราต้องใช้อารมณ์ในการสร้างสรรค์”

“ตอนนี้โฟกัสเรื่องการร้องเพลง เป็นสิ่งที่เราทำได้ดี อยากทำทีละอย่าง เพราะถ้าทำหลายๆ อย่างพร้อมกันคงไม่ดีสักอย่างหนึ่ง ส่วนการเดินแบบ การแสดงก็ทำได้เรื่อยๆ แต่เราอยากให้ภาพลักษณ์ของเรามาทางนักร้องมากกว่า เลยไม่อยากไปทำอย่างอื่นเท่าไหร่ ถ้างานอื่นๆ ก็จะดูให้แน่ใจว่าอยากจะทำหรือเปล่า”

แต่น่าเสียดายที่เธอกำลังจะบินไปเรียนต่อปริญญาโทที่ลอนดอนทางด้านจิตวิทยาในวงการแฟชันที่ London College of Fashion (UAL) จนกว่าจะได้ฟังเพลงใหม่ของเธอต้องรอถึงปีหน้า

“แพลนคือออกเป็นซิงเกิลในปีหน้า เพราะเดี๋ยวเราต้องบินไปเรียน ระหว่างนี้ก็คงบินไปบินมาระหว่างเมืองไทยกับลอนดอน เพลงใหม่คงต้องรอสักระยะหนึ่ง แต่คิดว่าจะทำให้ดูเป็นมิ้นท์มากขึ้น ให้มันดาร์กมากขึ้น เป็นเพลงที่เรียบเท่แต่มีความเฟมินีน”

ทั้งหมดนี้คือบทสนทนาที่จบลงอย่างรวดเร็ว เธอแต่งหน้าทำผมเสร็จพอดี แล้วก็ขอตัวไปเปลี่ยนชุด เพื่อเตรียมไปงานเปิดตัวคอนโดแห่งหนึ่ง ในค่ำคืนนั้นผมได้ยินเธอบ่นเบาๆ กับผู้ช่วยว่าชุดนี้มันไม่ใช่หนูเลย ผมคิดในใจทำไงได้ล่ะ คนเราก็ต้องมีบ้างที่ทำในสิ่งที่ไม่ใช่เรา — แต่เมื่อทำสิ่งที่ใช่ก็เป็นตัวเราเต็มที่ และเราคงได้เห็นเธอในภาพนั้นมากขึ้นในซิงเกิลต่อๆ ไป

FACT BOX:

มิ้นท์-ภัทรศยา ยงรัตนมงคล นางแบบนักแสดงและนักร้องสาววัย 24 ปี เป็นคนที่ชอบเพลงแนวแจ๊ส มีศิลปินที่เป็นไอดอล เช่น นอร่า โจนส์ ไดอานา ครอลล์ แนท คิงโคล และแฟรงก์ ซิเนตรา ขณะที่เธอก็ชอบดูหนังเก่าๆ เช่นกัน โดยชอบดูหนังของวูดดี อัลเลน

Tags: , , , , , ,