พอเดินไล่ดูผนังยาวที่เต็มไปด้วยงานของฌอง จูเลียง (Jean Jullien) ที่ Groove เซ็นทรัลเวิลด์ จนสุด ความอิจฉาก็ก่อตัวขึ้นทันที

แหมก็อยากมีทักษะการมองที่เปลี่ยนสิ่งประหลาดๆ ในบ้านนี้เมืองนี้ ให้เป็นเรื่องตลกได้อย่างเขาบ้าง

ผนังที่ว่าเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการ ‘The People’ จัดแสดงผลงานของฌอง จูเลียง ศิลปินร่วมสมัยชาวฝรั่งเศส โดยครั้งนี้นับเป็นการแสดงงานใหญ่ครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำหรับชาวโลก ชื่อ ฌอง จูเลียง เริ่มเป็นที่รู้จักกว้างขวางหลังจากที่เขาและศิลปินอื่นๆ ทั่วโลก ตัดสินใจ ‘ตอบโต้’ เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสเมื่อปี 2015 ด้วยศิลปะ

ภาพดินสออุดปากกระบอกปืนพร้อมคำว่า ‘Je suis Charlie’ เพื่อแสดงจุดยืนต่อเหตุการณ์กราดยิงที่สำนักงานของนิตยสาร Charlie Hebdo และ ‘สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ’ (Peace sign) สีขาว-ดำที่ลายเส้นด้านในถูกเปลี่ยนให้เป็นรูปหอไอเฟลโดยจูเลียง (ที่หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นงานของ Banksy ศิลปินแนวสตรีทอาร์ตชาวอังกฤษ) กลายเป็นภาพที่ผู้คนในโลกออนไลน์ส่งต่อกันไปทั่วโลก หลังเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งใหญ่ในกรุงปารีส ที่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมากมาย

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง ผลงานที่สื่อสารด้วยลายเส้นเรียบง่ายทว่าทรงพลังของศิลปินชาวฝรั่งเศสที่พำนักอยู่ในอังกฤษคนนี้ ก็เริ่มถูกจับตามองมากขึ้นจากผู้คนในภูมิภาคอื่นของโลก

“มันไม่ได้มีกระบวนการคิดเบื้องหลังอะไรมากนักหรอก มันเป็นเหมือนสัญชาตญาณ เป็นปฏิกิริยาตอบกลับของมนุษย์มากกว่าปฏิกิริยาตอบกลับของคนวาดรูป” จูเลียงอธิบายต่อนิตยสาร Wired เกี่ยวกับรูปที่แทบจะกลายมาเป็นสัญลักษณ์หลักของแฮชแท็ก PeaceforParis

นอกเหนือจากงานที่สื่อสารประเด็นหนักๆ ในสังคม ผลงานของผู้ชายที่หน้าตาและบุคลิกดูเป็นการ์ตูนฝรั่งเศสมากๆ คนนี้ ล้วนแต่มี ‘มนุษย์’ เป็นพระเอก ทว่ามนุษย์ของจูเลียงไม่ได้รับการนำเสนอผ่านจินตนาการแบบลุ่นๆ เขาคอยสังเกตเรื่องราวทั้งเล็กและใหญ่ในสังคมอย่างสนอกสนใจ ก่อนหยิบเอาเรื่องราวเหล่านั้นมาถ่ายทอดใหม่ผ่านมุมมองหยิกแกมกัด ลายเส้นสบายๆ และการใช้สีสันสดใส

อารมณ์ขัน คือสิ่งที่เห็นชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่งในงานของจูเลียง และน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผลงานของเขาเข้าถึงใจของผู้คนจำนวนมาก

ลองนึกดูสิ หัวข้ออย่างสื่อ ยุคของข่าวสารลามไหล พฤติกรรม และผลกระทบที่มีต่อคนในโลกโซเชียลมีเดีย เรื่องแบบนี้ ถ้าเขียนเป็นบทความก็คงเครียดและยาว แต่พอเราได้ดูรูปของจูเลียง ซึ่งเป็นผู้ชายที่กำลังจมอยู่ในกระแสสายอะไรสักอย่าง และริมตลิ่งนั้นมีป้ายเขียนว่า social media ปักไว้ หรือภาพที่มนุษย์ร่วมโต๊ะก้มลงถ่ายรูปอาหารในจานตัวเองพร้อมๆ กัน เราก็เก็ตแทบจะทันทีว่าศิลปินคนนี้กำลัง ‘เล่า’ อะไรให้เราฟัง

บทสัมภาษณ์หลายชิ้นของเขาบอกให้รู้ว่าจูเลียงมองตัวเองเป็นนักสื่อสารที่เป้าหมายหลักคือการสื่อสาร เขาเลือกใช้ความง่ายและความสนุกสนานเป็นเครื่องชูรส ที่สำคัญ เขามีความตั้งใจที่จะไม่ทำให้งานของตัวเอง ‘เป็นศิลปะเกินไป’

“บางครั้งการให้ความหมายของคำก็ยากเกินไป ผมว่ายิ่งเรียบง่าย ยิ่งดี ยิ่งทำให้เข้าใจกันเป็นสากลได้…คนคิดว่ากราฟิกเป็นแค่เครื่องมือในการโฆษณาขายของอย่างรถหรือสินค้า แต่กราฟิก อาร์ต คือวิธีในการแสดงออกถึงสิ่งที่เกินกว่าถ้อยคำต่างหาก” จูเลียงตอบคำถาม artnet.com เกี่ยวกับพลังของงานอิลลัสเตรชัน

ถ้าใครติดตามอินสตาแกรม @jean_jullien จะเห็นชัดเจนว่าผู้ชายคนนี้ชอบจับสิ่งเล็กน้อยที่เห็นในชีวิตประจำวันมารวมกับคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนของตัวเองอยู่บ่อยๆ ตะขอแขวนที่กลายร่างเป็นฉลามหัวค้อน พู่กันที่กลายมาเส้นผมที่ฟูยุ่งในวันลมแรง หรือแม้แต่มันฝรั่งที่ทำหน้าตกใจสุดขีดตอนตัวเองโดนปอกเปลือก ดูแล้วบางทีก็อยากรู้ว่า เฮ้ย! สมองฝั่งสร้างสรรค์ของหนุ่มคนนี้เคยหยุดทำงานบ้างรึเปล่า

ด้วยความใหม่ ทันสมัย เป็นสากล และความอารมณ์ดีของของเรื่องราวที่เขาหยิบมาเล่า ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้คนมากมายจะไปร่วมงานเปิดนิทรรศการของเขา บ้างหยุดดู บ้างถ่ายรูปคู่กับผลงานของเขามากมาย

คนที่รู้จักเขาอยู่แล้วก็ปลื้มกันไป ส่วนคนที่ไม่เคยรู้จักเขามาก่อน เมื่อลองสังเกต ก็เห็นทันทีว่าหยุดดูและชี้ชวนคนที่อยู่ข้างๆ คุยต่อ และยิ้มไปพร้อมกัน

นอกจากงานเขียนที่ตัดเส้นสีดำด้วยปากกาหัวแปรง (pen brush) อันเป็นเอกลักษณ์บนผนัง ครั้งนี้จูเลียงยังมีชิ้นงานประติมากรรมมาจัดแสดงด้วย โดยชิ้นที่สะดุดตาที่สุดคงจะเป็น ‘Bright Idea’ ประติมากรรมสูงกว่า 5 เมตร ที่ตั้งอยู่ริมถนนบริเวณด้านหน้าของห้าง

เดิมที ‘Bright Idea’ เป็นโคมไฟไม้ขนาดเล็กที่พอเปิดสวิตช์ หลอดไฟที่มีหน้ามีตาขึ้นมาด้วยฝีมือของจูเลียงก็จะไบรต์ขึ้นมาทันที สำหรับนิทรรศการครั้งนี้ เจ้าหลอดไฟก็กลายร่างเป็นประติมากรรมขนาดยักษ์ ที่ใครเห็นก็คงอดมองไม่ได้ เอ…หรือเจ้าหลอดไอเดียยักษ์ต่างหากที่กำลังมองคนที่เดินผ่านไปผ่านมา

งานอีกชิ้นที่ตั้งอยู่และมีคนแวะเข้าไปถ่ายรูปด้วยไม่ขาด คือเจ้าหมาหน้าตาไม่แยแสโลก ที่ยืนสองขากอดอก แถมยังเอาเชือกที่ล่ามไปถือไว้ไม่ให้ใครจูง และประติมากรรมหน้าตาเหมือนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเมื่อยืนตรงกับหน้าจอ ภาพที่สะท้อนออกมาให้เห็นก็จะบิดเบี้ยวไป–ไม่จริง

ด้วยพื้นความสนใจจากด้านวารสารศาสตร์ พร้อมๆ กับที่เรียนและมาจับงานกราฟิก ดีไชน์ และอิลลัสเตรชัน ปัจจุบัน งานของจูเลียงจึงเป็นการสื่อสารสิ่งที่เขาสนใจผ่านสื่อหลากหลาย เอ็มวีก็ทำ รายการโทรทัศน์ก็มี หนังสือ นิตยสาร เสื้อผ้า ก็ไม่เว้น นี่ยังไม่นับ Jullien Brothers บริษัทที่ทำร่วมกับน้องชาย และการทำงานร่วมกับแบรนด์ชั้นนำอีกหลากหลายด้วย

จึงอยากบอกให้จงเอาตัวออกจากบ้านหรือที่ทำงาน แล้วไปดูงานของเขากันเถอะ เพราะยุ่งขนาดนี้ ไหนจะทำงาน ไหนจะเลี้ยงลูก (จ้ะ…จูเลียงเป็นพ่อแล้ว) คงไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่ ที่ฌอง จูเลียง จะขนงานมากมายแบบนี้กลับมาโชว์ในเมืองไทยอีก

 

FACT BOX:

The People Exhibition โดย ฌอง จูเลียง
สถานที่: Groove ห้างสรรพสินค้าเซนทรัล เวิลด์
ระยะเวลา: 18 พฤษภาคม เป็นต้นไป

Tags: , , ,