ทุกคนคงคุ้นเคยกับภาพของเมืองเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอย่างเงียบเชียบบนเนินเขาซึ่งโอบล้อมไปด้วยทะเลสาบเจนีวา อย่าง ‘เมืองโลซานน์’ ที่ได้ชื่อว่ามีทัศนียภาพงดงามที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์กันเป็นอย่างดี เพราะครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนี พระเชษฐภคินี และสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช ในปี พ.ศ. 2467 ถึง พ.ศ. 2494

สมาชิกราชสกุลมหิดล: สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ – สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล – สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อครั้งประทับอยู่ที่เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

LAUSANNE AND ROYAL FAMILY

เมืองโลซานน์มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 สมัยที่ชาวโรมันอพยพมาตั้งหลักแหล่งบนเนินเขาแห่งนี้ โดยมีเขตเมืองอูชชี (Ouchy) เป็นพื้นที่ชุมชนดั้งเดิมซึ่งใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นหลัก เนื่องจากมีอาณาเขตติดต่อกับเมืองเอเวียง ประเทศฝรั่งเศส เพียงโดยสารเรือจากท่าเรือโลซานน์ข้ามทะลสาบเจนีวา ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก อีกทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อให้ได้ล่องเรือไปชมบรรยากาศ ของเมืองเวอร์เว และมงเทรอ อีกด้วย

ทะเลสาบแห่งนี้เป็นสถานที่ที่สมาชิกราชนิกุลทั้ง 4 พระองค์ ได้เสด็จมาพักผ่อนตลอดระยะเวลา 18 ปี ที่พำนักอยู่ที่เมืองโลซานน์ กิจกรรมที่ชาวสวิสนิยมในฤดูร้อนคือ การเล่นเรือใบและกรรเชียงเรือ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้ในหลวงได้ทรงหัดเล่นเรือใบมาตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงกรรเชียงเรือในทะเลสาบเจนีวา
ภาพสีซีดจางที่คุ้นตาชาวไทย จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับไทยมายาวนานนับแต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสเมื่อปี พ.ศ. 2440 และ พ.ศ. 2450

AN ORDINARY LIFE

แม้เวลาจะผ่านมากว่า 90 ปี ที่เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ และหม่อมสังวาลย์ พระบรมราชชนกและพระบรมราชชนนี เสด็จท่องยุโรปในปี พ.ศ. 2463 แต่โรงแรมโบริวาจ (Beau Rivage) เมืองโลซานน์ โรงแรมชั้นหนึ่งของเมือง ก็ยังคงความงดงามไม่เคยเปลี่ยน เมื่อมองจากหน้าต่างห้องพักจะได้สัมผัสกับวิวของทะเลสาบเจนีวาหรือที่ชาวสวิสเรียกกันว่าทะเลสาบเลอมอง (Lac Léman) กับภาพฝูงหงส์ลอยตัวอยู่บนท้องน้ำสะอาดใสสะท้อนแสงแดดระยับ มีฉากหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตา

เดินเลียบทะเลสาบไปไม่ไกลจากโรงแรมโบริวาจมากนัก พอได้สร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย ก็จะพบกับ Parc Olympique ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee) หรือ OIC โดดเด่นเห็นแต่ไกลด้วยสัญลักษณ์ห้าห่วง และประติมากรรมคบเพลิงที่มีฉากหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ ทำให้โลซานน์มีอีกชื่อเรียกว่า เมืองหลวงแห่งโอลิมปิก (Olympic Capital)

INTO WESTERN – ORIENTATED WORLD

ลัดเลาะทิวต้นไม้ถัดจาก Parc Olympique เลียบไปตามทะเลสาบก็จะพบกับศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติ (Le Pavillon Thailandais) ศาลาทรงจัตุรมุขสร้างด้วยไม้สักและไม้เนื้อแข็ง ตั้งโดดเด่นอยู่ท่ามกลางหิมะสีขาวโพลนที่โปรยปรายในฤดูหนาวในสวนสาธารณะเดอนองตู (Le Denantou) ซึ่งสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองศิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี พ.ศ. 2549

โลซานน์เป็นเมืองเก่าแก่มาตั้งแต่ยุคกลาง ภายในตัวเมืองเชื่อมต่อถึงกันด้วยตรอกซอกซอยเล็กๆ คดเคี้ยวสูงต่ำไปตามเนินเขาที่ตั้งของเมือง ซึ่งได้รับการดูแลรักษาความสะอาดเป็นอย่างดี ดูสวยงามและเต็มไปด้วยมนต์ขลังของความรุ่งเรืองในยุคโบราณ เราเดินผ่านบันไดไม้หลายแห่งที่สร้างหลังคาคลุมไว้ให้เชื่อมต่อถึงกัน ค่อยๆ ก้าวเข้าสู่มหาวิหารน็อทร์ดาม (Notre-Dame) โบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ประดับประดาด้วยหน้าต่างกระจกสีมากถึง 105 บาน มีหน้าต่างกุหลาบ แท่นบูชา และเสาวิหารอันโอ่อ่าอลังการ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยรูดอล์ฟแห่งจักรวรรดิโรมันและพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 10

แฟลตเลขที่ 16 บนนถนนทิสโซต์
สถานที่ประทับในช่วงแรกของสมาชิกราชสกุลมหิดล

MEMORIES LAST FOREVER

ชาวสวิสแถบโลซานน์นั้นมีไลฟ์สไตล์ที่เงียบสงบ ตามที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ทรงนิพนธ์บอกเล่าไว้ไม่มีผิด

ในเช้าวันอาทิตย์ที่บรรยากาศโดยรอบนิ่งสงัด แว่วเสียงน้ำไหล ท่ามกลางสายลมหนาวที่พัดมาแผ่วเบา เราเดินผ่านถนนทิสโซต์ (Tissot) ที่ตั้งของแฟลตเลขที่ 16 สถานที่ประทับในช่วงแรกของราชสกุลมหิดล ที่ทั้ง 4 พระองค์ทรงมีช่วงชีวิตแสนสุขอย่างเรียบง่าย และทรงเดินออกกำลังพระวรกายบนถนนเส้นนี้เป็นประจำ ก่อนจะย้ายไปประทับที่วิลล่าวัฒนา (Villa Vadhana) เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลเสด็จขึ้นครองราชย์

มองผ่านแมกไม้และตัวตึกจะเห็นสนามหญ้าด้านหลังซึ่งเป็นสถานที่ทรงหัดจักรยานของพระเจ้าอยู่หัวของแผ่นดินไทยทั้ง 2 พระองค์

เราเดินห่างจากตัวแฟลตไปจนสุดถนนก็ได้พบกับที่ทำการไปรษณีย์ที่พระองค์ย่างพระบาทไปส่งไปรษณียบัตรลายพระหัตถ์โย้เย้ในวัยพระเยาว์ถวายแด่สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ณ วังสระปทุม ด้วยความรักและคิดถึง

พระเจ้าอยู่หัวทั้ง 2 พระองค์ของแผ่นดินไทยกับชุดของเล่น Science Kit
จุดเริ่มต้นของกษัตริย์ผู้เป็นนักพัฒนา

เมื่อย้ายมาประทับที่วิลล่าวัฒนา ในเขตปุยยี (Pully) สถานที่แห่งความทรงจำนับสิบปีที่โลซานน์ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลบนถนนเลียบทะเลสาบเจนีวาเส้นเดิม ที่สงบและร่มรื่นด้วยสวนผลไม้ที่ปลูกไว้รายรอบตัวพระตำหนัก

ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นความสนพระราชหฤทัยเกี่ยวกับงานช่างไม้สู่พระปรีชาสามารถในการต่อเรือ รวมถึงการดนตรี เมื่อทรงว่างจากการศึกษาทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บรรดานักเรียนไทยในสวิตเซอร์แลนด์ร่วมสโมสรสังสรรค์พร้อมทั้งทรงเล่นดนตรีด้วย

จึงนับว่าพระตำหนักวิลล่าวัฒนาเป็นเสมือนศูนย์รวมจิตใจของเหล่าชาวไทยไกลบ้านในยุคสมัยนั้น
งานสังสรรค์ที่จัดขึ้นภายในวิลล่าวัฒนา

ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเล่นดนตรีร่วมกับนักเรียนไทยในสวิตเซอร์แลนด์

การได้มาพบเห็นสถานที่ซึ่งล้วนมีเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวราชสกุลมหิดล และราชวงศ์จักรี ณ เมืองโลซานน์ ในครั้งนี้ ทำให้รู้สึกราวกับว่าเรื่องราวเล่านี้เพิ่งเกิดขึ้น แม้จะผ่านเวลามาเนิ่นนาน สร้างความซาบซึ้งถึงการดำเนินชีวิตที่เรียบง่ายในสิ่งแวดล้อมที่สงบเงียบที่พระองค์เจริญพระชนม์ชีพ รวมถึงได้เห็นถึงแนวทางในการอภิบาลพระธิดาและพระโอรสของสมเด็จพระบรมราชชนนีซึ่งปลูกฝังความวิริยอุตสาหะ มัธยัสถ์ และความผูกพันกับธรรมชาติ อันเป็นพื้นฐานแห่งชีวิตให้กับพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักพระองค์นี้

เรื่อง: มิ่งขวัญ รัตนคช, ตนุภัทร โลหะพงศธร ภาพ: สิรภพ มหรรฆสุวรรณ, รัชนันท์ ตระการวนิช เรียบเรียง: จินตนา ประชุมพันธ์

 

Tags: , ,