คุณผู้อ่านเคยได้ยินคำพูดที่ว่า ‘The days are long, but the years are short’ (หรือถ้าให้แปลเป็นภาษาไทยก็คือ หนึ่งวันนั้นช่างยาวนาน แต่หนึ่งปีนั้นช่างรวดเร็ว) ไหมครับ

สำหรับตัวผมเอง ผมมีความรู้สึกเหมือนคำพูดนั้นทุกปี โดยเฉพาะวันขึ้นปีใหม่ มีหลายๆ วันในปีหนึ่งๆ ที่ผมรู้สึกว่าเวลานั้นช่างผ่านไปช้าเหลือเกิน แต่เมื่อใดก็ตามที่ผมมองย้อนกลับไปดูทั้งปี ผมมักจะรู้สึกโหวงเหวงในใจ ว่าทำไมปีหนึ่งๆ มันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน

เผลอแป๊บเดียวตัวเองก็จะอายุ 40 แล้ว แถมทุกๆ ปีผมก็มักจะจำไม่ได้ว่าแต่ละวันนั้นได้เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของผมบ้าง

จนมาถึงปีนี้ ปี 2016

ปี 2016 เป็นปีแรกในชีวิตที่ผมสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า ผมจำได้ (เกือบ) ทั้งหมดว่าแต่ละวันของปีนี้ได้เกิดอะไรขึ้นในชีวิตของผมบ้าง

ปี 2016 ก็ยังเป็นปีที่ ‘The days are long, but the years are short’ สำหรับผมอยู่ แต่ผมคงต้องเปลี่ยนคำพูดนี้ใหม่เป็น ‘The days are long, but the years are 7 minutes long’

เพราะว่าปีนี้เป็นปีแรกที่ผมเริ่มใช้แอปฯ ของ ซีซาร์ คุริยามะ (Cesar Kuriyama) ที่มีชื่อว่า 1 Second Everyday ในการถ่ายวิดีโอ 1 วินาทีทุกวันตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2016 เป็นเวลาหนึ่งปีด้วยกัน

และในการใช้แอปฯ นี้ ทำให้ผมสามารถบอกได้อย่างแน่นอนว่า

วันจันทร์ที่ 18 มกราคม ผมต้องตื่นแต่เช้าไปสัมภาษณ์งานที่มหาวิทยาลัยในลอนดอน หน้าตาของผมบ่งบอกว่าผมค่อนข้างตื่นเต้นมาก เพราะไปสมัครงานแล้วหลายที่ แต่ก็ยังไม่ได้งานประจำมารองรับตำแหน่งปัจจุบันสักที

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ผมพึ่งได้ข่าวว่าผมได้งานที่ Warwick Business School ถ้าได้ดูการเต้นของผมนั้นก็คงจะบอกได้ว่าผมดีใจกับข่าวดีนั้นขนาดไหน

วันที่ 10 กุมภาพันธ์​ วันคล้ายวันเกิด (32) ของภรรยาผม เราไปฉลองกันที่ร้านอาหารฝรั่งเศสในเขตแอนเจิล ในลอนดอน

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ผมต้องไปอุดฟัน เพราะที่เคยอุดไปหลุดมานานเกือบ 2 เดือน มองหน้าในวันนั้นแล้วก็คงรู้ว่าผมกล้าๆ กลัวๆ

วันที่ 16 พฤษภาคม เป็นวันที่ผมและภรรยาย้ายเข้าบ้านใหม่ของเราเป็นวันแรกในเมืองวอร์วิก

วันที่ 24 มิถุนายน เป็นวัน Brexit และเป็นวันหนึ่งในหลายๆ วันเศร้าของปีนี้

วันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันที่เราเคาะฝาผนังห้องในบ้านของเราเป็นครั้งแรก เพื่อทำการตกแต่งใหม่

วันที่ 29 กรกฎาคม เป็นวันที่เราพึ่งเสร็จการประชุมนโยบายความสุขที่ London School of Economics

วันที่ 18 สิงหาคม เป็นวันที่ผมและภรรยาบินไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก เราทั้งสองคนตื่นเต้นมากกับโอกาสที่จะได้บินไปกินอาหารญี่ปุ่นถึงถิ่น

วันที่ 1 กันยายน เป็นวันที่ผมเริ่มทำงานที่ Warwick Business School เป็นวันแรก

วันที่ 13 ตุลาคม เป็นวันที่ผมนั่งน้ำตาไหลอยู่คนเดียวในขณะที่กำลังนั่งรถไฟไปทำงานที่ London School of Economics ในลอนดอน

วันที่ 15 พฤศจิกายน เป็นวันที่ผมสอนวันสุดท้ายของเทอม

…เป็นต้น

ซึ่งถ้าไม่ได้ใช้แอปฯ นี้ช่วย ผมก็คงจะไม่สามารถจำเหตุการณ์และวันที่เกิดขึ้นของเหตุการณ์นี้ได้เลย

3 บทเรียนสำคัญที่ผมได้จากการใช้แอปฯ 1 Second Everyday

1. มีอยู่หลายวันมากในปีที่ไม่มีเหตุการณ์ใหญ่ๆ อะไรเกิดขึ้นเลย ยกตัวอย่างเช่น วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม (วิดีโองานที่ตัวเองกำลังทำอยู่บนเครื่องคอมฯ) วันพุธที่ 1 มิถุนายน (วิดีโอรูปปั้นช้าง 3 ตัวในเมือง Leamington Spa ใกล้ๆ บ้าน) หรือวันจันทร์ที่ 12 กันยายน (วิดีโอรูปภาพของ WBS กำลังเดินลงบันไดเพื่อขับรถกลับบ้าน) แต่การมีแอปฯ 1 Second Everyday นี้ก็ทำให้ผมสามารถจำวันที่ธรรมดาๆ อย่างนี้ได้อย่างดี ซึ่งถ้าไม่ได้ใช้ก็คงจำวันเหล่านี้ไม่ได้แน่ๆ

2. การดูวิดีโอทำให้ผมเข้าใจอย่างลึกซึ้งขึ้นไปกว่านิยามที่ว่า ‘เรามีกันอยู่เพียงสองคน’ ของผมและภรรยาในประเทศอังกฤษนี้ ซึ่งถ้ายังมีใครสงสัยว่าทำไมเราสองคนถึงรักกันและเป็นห่วงกันจัง การได้ดูวิดีโอนี้ก็คงจะเข้าใจชีวิตคู่ของเราทั้งสองได้มากขึ้น

3. การที่ได้ใช้แอปฯ นี้ทุกวันทำให้ผมและภรรยาพยายามจะหาสิ่งใหม่ๆ ทำในวันหยุดสุดสัปดาห์เกือบทุกสัปดาห์ เพื่อจะได้มีอะไรเก็บไว้เป็น 1 วินาทีของวันนั้นๆ ซึ่งถ้าไม่มีแอปฯ นี้เราก็คงจะไม่ได้มีประสบการณ์วันหยุดที่ดีๆ บ่อยๆ อย่างนั้น แต่เราก็ไม่ได้ใช้ทั้งวันของวันหยุดถ่ายวิดีโอ (แค่ 1 วินาทีของวันเท่านั้นเอง) ซึ่งก็ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินไปกับวันนั้นๆ ไม่เหมือนกับการหยุดถ่ายรูปหลายๆ ช็อตของทุกๆ ที่ที่ไปเที่ยว

การสร้างและการเก็บความทรงจำนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิตของมนุษย์เราทุกคนนะครับ แต่คนเรามักจะเก่งในการสร้างความทรงจำมากกว่าการเก็บความทรงจำเยอะ

1 Second Everyday จึงเป็นแอปฯ ที่จะช่วยให้เราสามารถเก็บความทรงจำของปีแต่ละปีในชีวิตของเราได้ ถ้าเรามีความตั้งใจในการถ่ายวิดีโอแค่วันละหนึ่งวินาทีทุกๆ วัน

อย่างที่ผมบอกไว้ตอนต้นว่า ปี 2016 ก็ยังเป็นปีที่ ‘The days are long, but the years are short’ สำหรับผมเหมือนทุกๆ ปี

เพียงแต่ปีนี้ มีความยาว 7 นาทีเท่านั้นเอง

 

 

ภาพประกอบ: Karin Foxx
ข้อมูลเพิ่มเติม:
TED talk ของ ซีซาร์ คุริยามะ

Tags: , ,