CARPE DIEM EP015 : ปรากฏการณ์ สรยุทธ

THE SHOW NOTES

ปรากฏการณ์สรยุทธ

00.36

ในช่วงต้นปีมีเหตุการณ์สำคัญเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นที่ทำให้คนในวงการสื่อต้องจับตามอง นั่นคือการปรากฏตัวของสรยุทธที่ทำการรายงานน้ำท่วมผ่าน Facebook LIVE หลังจากเว้นว่างจากหน้าจอไปพักใหญ่

คุณสรยุทธนั้นถือเป็นคนที่มีฐานแฟนคลับที่มากอยู่แล้ว และหลังจากมีการรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงปี 2554 ภาพของสรยุทธกับน้ำท่วมจึงเป็นของคู่กันมา และเมื่อเกิดน้ำท่วมภาคใต้ในปีนี้ที่มีความหนักและมีสื่อรายงานน้อย จึงเกิดกระแสโหยหาคุณสรยุทธขึ้น ทั้งในอินสตาแกรมของสรยุทธเองและตามที่ต่างๆ สรยุทธจึงตัดสินใจเดินทางไปภาคใต้และนำเสนอภาพการให้กำลังใจจนเกิดเป็นกระแสที่ดีมากด้วยสไตล์ที่เรียบง่ายและใกล้ชิด แฟนเพจต่างๆ จึงนำไปแชร์จนยอดไลก์แฟนเพจของคุณสรยุทธเองพุ่งขึ้นสูงมากในเวลาไม่กี่วัน

ความเชื่อในตัวบุคคล

07.01

ความเชื่อในตัวบุคคลถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน นักข่าวหลายคนก็ลงไปทำข่าวน้ำท่วมเช่นกัน แต่ก็ไม่สามารถทำให้คนติดตามหรือคล้อยตามได้เท่าคุณสรยุทธ หนุ่มเมืองจันท์คิดว่ามันคือชื่อเสียงที่คุณสรยุทธสั่งสมมาอย่างยาวนานจนทุกคนคุ้นชิน วิธีการและน้ำเสียงที่เราฟังแล้วเหมือนเป็นเพื่อน เมื่อรวมกับกระแสความโหยหาก็ทำให้มันจุดติดขึ้นมา

และในอีกมุมหนึ่งก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า Facebook LIVE ณ ตอนนี้เป็นสิ่งที่มาแรงมาก สมัยก่อนเวลาโทรทัศน์จะถ่ายทอดสดต้องมีอุปกรณ์มากมาย แต่ Facebook LIVE ทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยนไป ใช้โทรศัพท์มือถือแค่เครื่องเดียว เป็นการลดต้นทุนลงอย่างมาก แม้จะได้ภาพที่ไม่เหมือนในโทรทัศน์แต่ก็ได้ความสมจริงมาแทน ซึ่งกลายเป็นช่องทางใหม่ และเป็นช่องทางที่ไม่มีใครควบคุมได้ จนกลายมาเป็นแนวโน้มใหม่ของวงการสื่อตอนนี้

สื่อใหม่ ใครก็ใช้ได้

10.33

ในสมัยก่อนนั้นช่องทางของสื่อมีอยู่จำกัด แต่ทุกวันนี้สื่อใหม่กลายเป็นสิ่งที่ใครก็สามารถใช้ได้ และต้นทุนต่ำจนทำให้วงการสื่อต้องเปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ใช่ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้สื่อเก่าตายซะทีเดียว อย่างที่สถานีโทรทัศน์หลายช่องทุกวันนี้ก็มีการถ่ายทอดผ่าน Facebook เช่นเดียวกัน เป็นการเติมเต็มซึ่งกันและกัน หนุ่มเมืองจันท์เคยคุยกับรุ่นพี่ในวงการโทรทัศน์ แกบอกว่าตอนนี้กลุ่มเป้าหมายมีแค่คนดูทีวี กับคนไม่ดูทีวี คนดูทีวีก็ยังดูทีวีอยู่ คนไม่ดูทีวีก็ไม่ดูทีวีเลย เพราะฉะนั้นเมื่อถึงเวลาถ่ายทอดรายการก็สามารถฉายในทั้งสองช่องทางได้ ไม่ต้องแย่งกัน

เคล็ดลับความเข้าถึง

12.40

อย่างที่บอกว่าคุณสรยุทธนั้นมีคาแรกเตอร์ที่คนเข้าถึงง่าย จึงไม่แปลกใจที่รายการที่ทำจะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง หากย้อนกลับไปดูตั้งแต่รายการเล่าข่าวช่วงเช้าที่สรยุทธทำให้กลายเป็นรายการที่เกือบทุกคนนั่งดู จากที่เคยเป็นช่วงเวลาที่มีคนดูทีวีน้อยมาก สโลแกน ครอบครัวข่าว ถือเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญที่ทำให้ทุกคนรู้สึกได้ถึงความเป็นกันเอง ซึ่งเรื่องแบบนี้เป็นอะไรที่สร้างกันเพียงข้ามคืนไม่ได้ เรียกว่าเป็นเสน่ห์ของคุณสรยุทธเลยทีเดียว

ทีวีจะตายจริงหรือ

16.57

หลายคนพูดว่าสื่อทีวีกำลังจะตาย แต่ ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ อาจารย์และนักวิชาการทางด้านสื่อจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเคยให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ The Momentum ว่าในประเทศไทยนั้นยังมีคนจำนวนหนึ่งในชนบทยังดูทีวีอยู่ ทำให้ทีวียังไม่ตาย แต่ราคาโทรศัพท์มือถือก็ถูกลงเช่นกัน ทำให้คนหันมาใช้กันมากขึ้น นั่นทำให้โอกาสที่ทีวีจะตายมีมากขึ้น แต่คงยังไม่ใช่ในเร็วๆ นี้ ซึ่งความคิดนี้ก็ตรงกับผลสำรวจที่พบว่าในปี 2559 มีคนใช้อินเทอร์เน็ตหน้าใหม่ผ่านสมาร์ตโฟนกันมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนต่างจังหวัด

Content is the king

18.45

สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือแม้จะไม่ใช่ยุคที่รุ่งเรืองของโทรทัศน์ แต่คนทำสื่อสมัยนี้ยังสามารถทำคอนเทนต์ออกมาได้อยู่ เพียงแต่เปลี่ยนช่องทางในการนำเสนอเท่านั้น อย่างตอนนี้คอนเทนต์ที่มีคนดูมากที่สุดใน Youtube ก็ยังเป็นคอนเทนต์ที่มาจากโทรทัศน์อยู่ หลายรายการเลือกตัดเป็นคลิปสั้นๆ ก็มีคนดูเป็นหลักหลายล้าน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคุณภาพและมาตรฐานที่เนี้ยบกว่าของรายการโทรทัศน์ แตกต่างจากคอนเทนต์ในอินเทอร์เน็ตส่วนมากที่เน้นไปที่ความเร็วและความสดมากกว่าโปรดักชัน ซึ่งก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าจะสามารถยืนระยะไปได้นานแค่ไหน

และถึงที่สุดแล้วหัวใจของการทำสื่อก็คือคอนเทนต์ ถ้าเนื้อหาดีมีคุณภาพ จะถูกนำเสนอทางช่องทางไหนก็เป็นไปได้ทั้งนั้น เปรียบเสมือนอาหาร ถ้าเราทำอร่อย จะเปลี่ยนไปใส่ภาชนะไหนก็ยังอร่อยอยู่ดี

ตัวอย่างจากเวิร์กพอยต์

21.05

ค่ายเวิร์กพอยต์ถือเป็นค่ายหนึ่งซึ่งปรับตัวได้ดี มีการปล่อยคอนเทนต์ข้ามกันไปมาระหว่างโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ต และเริ่มสร้างรายได้จากโลกออนไลน์ได้มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทางค่ายเองก็ปรับรูปแบบตอนเทนต์ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภค มีการตัดคลิปให้สั้นขึ้น ซึ่งนอกจากจะรองรับพฤติกรรมแล้ว ยังเป็นการเพิ่มยอดวิวให้กับตัวคอนเทนต์อีกด้วย

มูลค่าของสื่อออนไลน์

23.46

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าเม็ดเงินโฆษณาออนไลน์ในปี 2560 จะมีมูลค่าสูงถึง 12,000-12,500 ล้านบาท ซึ่งโตขึ้นจากปีที่แล้ว 21-26% ซึ่งหนุ่มเมืองจันท์เชื่อว่าจะมากกว่านั้นเพราะสื่อออนไลน์เป็นสื่อที่มาเร็วและแรงมาก ณ ตอนนี้ โดยมูลค่าเงินตรงนี้ก็คงจะไหลออกนอกประเทศซะส่วนใหญ่ จากการเป็นตัวกลางของทั้ง Youtube และ Facebook แต่ถึงอย่างไรก็ยังเป็นโอกาสของคนทำสื่ออยู่ดี